- 14 ธ.ค. 2559
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ ( 14 ธ.ค.) ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพฯ นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนางชฎาพร รักษาทรัพย์ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และคณะได้นำสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมและสาธิตการนำเทคโนโลยีเครื่องบอดี้สแกน(Body Scan) เข้ามาใช้ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายกอบเกียรติ เปิดเผยว่า ได้มีการนำเครื่องบอดี้สแกน(Body Scan) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบ เป็นลักษณะเดียวกับที่ติดตั้งในสนามบิน สามารถเห็นถึงการซุกซ่อนในจุดซ่อนเร้นของอวัยวะ ตรวจพบเพียงเงินสดเท่านั้น ซึ่งจะแตกต่างจากการนำเครื่องบอดี้สแกนไปติดตั้งที่เรือนจำชาย จะพบสิ่งของต้องห้ามเกือบทุกอย่างทั้งยาเสพติด ซิมโทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งพบได้จากทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง
นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ตามแผนเดิมนั้นจะนำเครื่องบอดี้สแกนมาใช้เฉพาะที่เรือนจำความมั่นคงสูงและเรือนจำชายเท่านั้น ซึ่งจะพบปัญหาการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามทั้งยาเสพติด ซิมโทรศัพท์ เครื่องโทรศัพท์มือถือเข้ามาในเรือนจำ โดยผู้ฝ่าฝืนข้อห้ามมีความต้องการสูง คือกลุ่มผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติด ผู้ที่ต้องการเลี้ยงเครือข่าย ขณะที่เรือนจำหญิงแทบจะไม่พบว่ามีปัญหานำสิ่งของต้องห้ามนำเข้ามาในเรือนจำ แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้นำเครื่องบอดี้สแกน 1 เครื่องจากเรือนจำความมั่นคงสูงมาใช้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กทม. นั้น เพื่อแก้ปัญหาผู้ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการตรวจค้นร่างกายมากกว่าเน้นตรวจสิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำ
ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะลดปัญหาข้อร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการตรวจค้นร่างกายโดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้แน่นอน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีการตรวจค้นร่างกายจริง เพราะมีการซุกซ่อนยาเสพติด สิ่งของต้องห้าม เช่น ซิมโทรศัพท์ หรือมือถือ ซ่อนทางทวารหนัก ช่องคลอด หรือที่ลับที่คิดว่าจะไม่ถูกตรวจ แต่หากใช้เครื่องบอดี้สแกนจะมองทะลุผ่านร่างกายเห็นวัตถุที่ซุกซ่อนได้ โดยเครื่องมือนี้มีประโยชน์ทั้งการป้องกันและป้องปราม ซึ่งจะลดภาระเจ้าหน้าที่ได้มาก
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ผลที่ได้รับหลังจากนำเครื่องบอดี้สแกนมาใช้ในเรือนจำแล้วทั้ง10 แห่งก่อนหน้านี้ คือไม่พบการลักลอบนำยาเสพติดหรือมือถือเข้าไปในเรือนจำ ไม่พบความเคลื่อนไหวทั้งเรือนจำความมั่นคงสูงเขาบิน จ.ราชบุรี เรือนจำ จ.ระยอง เพราะเมื่อทราบว่านำเครื่องบอดี้สแกนมาใช้ ก็ไม่มีใครกล้านำของต้องห้ามเข้ามา ขณะนี้ราชทัณฑ์มีเครื่องบอดี้สแกนทั้งหมด 11 เครื่อง ประกอบด้วย เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางคลองไผ่ เรือนจำกลางคลองเปรม และทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ฯลฯ และอยู่ระหว่างการจัดซื้ออีก 5 เครื่อง ซึ่งจะนำไปไว้ในเรือนจำความมั่นคงสูงและเรือนจำขนาดใหญ่ เครื่องมือตัวนี้ถือว่ามีความจำเป็นแต่เนื่องจากปัจจุบันราคาสูงเครื่องละ 13 ล้านบาท ดังนั้นจะจัดให้กับเรือนจำที่ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญก่อนเพราะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะซื้อได้ปีละ 5 เครื่องเท่านั้น
" ยอมรับว่าการตรวจค้นร่างกายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ยังจำเป็นต้องใช้วิธีการนี้แม้ว่าจะนำเครื่องบอดี้สแกนมาใช้แล้วก็ตาม แต่เฉพาะในรายที่เครื่องอ่านผลพบของต้องห้ามซุกซ่อนแล้วไม่ยอมนำออกมา" นายกอบเกียรติ กล่าว
วิทย์ณเมธา สำนักข่าวทีนิวส์