ไม่ยอมโผล่หัว!! "องอาจ" เบี้ยวไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามนัด จ่อออกหมายจับหากพบว่าจงใจ

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

จากกรณีนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปราม ในข้อหา "หมิ่นประมาท" และ"หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา"  ซึ่งต่อมาทางกองปราบปรามได้ส่งสำนวนคดีดังกล่าวมาให้ทาง สน.ทุ่งสองห้อง เป็นผู้ดำเนินการ เมื่อวันที่27 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น


ความคืบหน้าล่าสุด  วันนี้ ( 21 ธ.ค.)  ที่ สน.ทุ่งสองห้อง   เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย  ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า  คดีนี้สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม  ให้ดำเนินคดีกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ในข้อหา "หมิ่นประมาท" และ"หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา"  ต่อมาทางกองปราบปรามได้ส่งต่อคดีนี้มาให้ สน.ทุ่งสองห้อง  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วและได้ทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ก่อนจะออกหมายเรียกนายองอาจ  ให้มาพบพนักงานสอบสวนเวลา 13.00 น. วันนี้ ( 21 ธ.ค. 59 ) แต่นายองอาจ  ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามนัดแต่อย่างใด

 

อย่างไรก็ตาม  ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้มาพบอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2  และหากว่า นายองอาจ ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีก  หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการออกหมายจับ  แต่ทั้งนี้ต้องดูเจตนาปประกอบด้วย  ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วพบว่านายองอาจ จงใจขัดหมายเรียก  พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายจับได้เลย ส่วนอัตราโทษคดีหมิ่นประมาท  มี 2 กรณี คือ กฎหมายอาญามาตรา 326  มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ และกฎหมายอาญามาตรา 328 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท  โดยคดีนี้มีอายุความ10 ปี

 

 

วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์