ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้อง "ศักดิ์ชาย กาย" คดีปลอมลายเซ็นตระกูลดัง ณ ป้อมเพ็ชร์ ถอนเงิน 158 ล้าน

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 13 มี.ค.)  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก   ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่ พล.ต.ต.เพ็ชร์ ณ ป้อมเพ็ชร์ โดย น.ส.นพมาศ ณ ป้อมเพ็ชร์ ในฐานะผู้อนุบาล เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการบริหารนิตยสารชื่อดัง เป็นจำเลย ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมาย 264 , 266 , 268 หลังจาก เมื่อวันที่ 3 ส.ค.43  จำเลยได้ปลอมใบถอนเงิน ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ซึ่งมีลายมือชื่อของโจทก์แล้วนำไปถอนเงินจำนวน 158,330,000 บาทในรูปของแคชเชียร์เช็คแล้วนำไปเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลย เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
 

 

ศาลพิเคราะห์ จากพยานหลักฐาน  และอุทธรณ์ที่โจทย์จำเลย นำมาชี้แจงต่อศาล ในประเด็นว่ามีการปลอมแปลงเอกสารและเช็คจริงหรือไม่ จากการพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพบว่า น.ส.นพมาศ ณ ป้อมเพชร มีอาการป่วยเลือดออกในสมอง จริง และต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ แต่เอกสารการถอนเงิน และเช็คฉบับ ต่างๆ ที่มีปัญหา พบว่ามีลายเซ็นของโจทก์เป็นผู้สั่งจ่าย และมีการลงลายมือชื่อ  ส่วนข้อมูลต่างๆ ในเช็คมีผู้อื่นช่วยกรอกให้ โดยโจทก์ อุทธรณ์ว่า น.ส.นพมาศ ไม่มีสติสัมปชัญญะพอที่จะลงลายมือชื่อได้ เนื่องจากป่วย เลือดออกในสมอง  แต่จากการตรวจสอบประวัติทางการแพทย์พบว่า  ช่วงเวลาที่มีการเซ็นเอกสาน และเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน 158 ล้านกว่าบาทให้จำเลยนั้น เกิดขึ้นก่อนที่ น.ส.นพมาศ จะมีอาการเลือดออกในสมองจนต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้น น.ส.นพมาศ มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน อีกทั้งอาการป่วยของโจทก์ก็ไม่มีมูลว่าอาการจะถึงขั้นไร้สติสัมปชัญญะ จนถึงขนาดไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ 

 

นอกจากนี้ พยานที่เป็นพนักงานธนาคารที่สั่งจ่ายเช็คดังกล่าว ยืนยันว่า มีการตรวจดูลายมือภายในเช็คกับลายมือ ต้นฉบับตรงกัน อีกทั้งยังมีการส่งรายงาน ความเคลื่อนไหวในบัญชีเงินฝากให้กับโจทก์ดูรายละเอียดทุกเดือน  ซึ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีความรู้ และมีการศึกษาจากต่างประเทศ  มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน จึงสามารถดูความเคลื่อนไหวและสังเกตเห็นความผิดปกติของเงินที่ออกจากบัญชี  ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการร้องเรียนถึงความผิดปกติในบัญชีดังกล่าว อีกทั้งฝ่ายจำเลยได้ถ่ายรูปขณะเซ็นเอกสาน เป็นหลักฐาน  ส่วนประเด็นที่โจทก์ยื่นว่ามีการปลอมลายเซ็นนั้นก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ลายเซ็นในเอกสารต่างๆ เป็นลายเซ็นของปลอม ประเด็นนี้จึงไม่มีน้ำหนัก ศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องจำเลย

 

 

วิทย์ณเมธา  สำนักข่าวทีนิวส์