ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

ผู้สื่อข่าวรายงาน ศาลตัดสินจำคุก “ฟิล์ม รัฐภูมิ” 1 ปีปรับ 1 แสน โทษจำรอลงอาญา 2 ปี รายงานตัว 1 ปี และบำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง หลังร่วมกับพวกร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ"  ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

วันนี้ ( 6 ธ.ค. 2561 ) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม” พระเอกและนักแสดงชื่อดัง,  นายศราวุฒิ นนทะภา,  นายธเนศ จัตวาพรพานิช อายุ 43 ปี และ นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ จำเลยในคดีร่วมกันประกอบธุรกิจ บัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ได้เดินทางมาเพือฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.3090/61 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด 

 

ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ"  ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

โดย นายศราวุฒิ นนทะภา กรรมการผู้มีอำนาจ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ อายุ 33 ปี พระเอกและนักแสดงชื่อดัง  นายธเนศ จัตวาพรพานิช อายุ 43 ปี และนายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ อายุ 38 ปี ในฐานะกรรมการบริษัท ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบธุรกิจ บัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่ห้องพิจารณา 914   

 

ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ"  ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

คดีนี้พวกจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะ ประวัติครอบครอบครัว การทำงานการศึกษา ของพวกจำเลย และอื่น ๆ เพื่อนำมาพิจารณาประกอบคำพิพากษา และอนุญาตให้พวกจำเลยมีประกันตัวไปคนละ 2 แสนบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

 

ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ"  ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

 

 

 

โดยคดีนี้ อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือนตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อเนื่องกันจำเลยทั้ง 4 คน บังอาจร่วมกันประกอบกิจการให้บริการแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ “เพย์ออล” (Payall) และสมัครสมาชิกเพื่อสร้างบัญชีของผู้ใช้บริการ

ซึ่งระบบจะตั้งบริษัทสมาชิก รหัสผ่านในการใช้งาน และเติมเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารของจำเลยตามช่องทาง โดยระบบจะบันทึกจำนวนเงินที่เติมตามมูลค่าของผู้ใช้บริการแต่ละราย รวมทั้งนำเงินที่ชำระไว้ล่วงหน้าไว้ชำระค่าสินค้า และค่าบริการต่างๆ แทนเงินสดการกระทำของพวกจำเลยมีลักษณะร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินเล็กทรอนิกส์ เป็นการโอนสิทธิการถือครองเงิน และการโอนสิทธิการถอนเงิน หรือหักเงินผ่านบัญชีหรือแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้บริการโดยไม่จำกัด และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่าย ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 และบัญชีท้ายตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

 

ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ"  ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

โดยจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี และวันนี้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดหมาย 

 

ศาลตัดสินจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ"  ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์

 

ศาลพิเคราะห์ จำเลยทั้งหมดมีความจริงที่ประกอบกิจการบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงพิพากษาให้จำเลยที่ 1 เสียค่าปรับเป็นเงิน 2 แสน ส่วนจำเลยที่ 2 ถึง 4 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท

แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 2 ปี และต้องมารายงานตัว 1 ปี และบำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง