- 26 ธ.ค. 2561
ความคืบหน้า กรณีการเสียชีวิตของ น้องซูลุยผิว หนูน้อยเมียนมา วัน2 ขวบ
จากกรณี ด.ช.ซูลุยผิว วัย 2 ขวบ 1 เดือน หรือน้องต้าเเง ชาวเมียนมา หายไปอย่างไร้ร่องรอยบริเวณไร่อ้อย ห่างจากริมถนนมาลัยแมน 3 กม. ลึกไปใน พื้นที่หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561 โดยได้มีการระดมกำลังทุกภาคส่วน ช่วยกันค้นหา ด้วยความหวังและกำลังใจว่าเด็กจะปลอดภัยและมีชีวิตอยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ธค. 61 เข้าสู่วันที่ 9 การหายตัวไปของหนูน้อยเมียนมา อายุ 2 ปี ขณะที่พ่อแม่เด็กยังคงมีความหวัง และคิดว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ไม่ไปไหน เเต่สุดท้ายเเล้ว ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ได้พบร่างอันไร้วิญญาณ ของน้องซูลุยผิว เบื้องต้น จากสภาพศพ เด็กน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 5-7 วัน ซึ่งก็ต้องผลการชันสูตร หาสาเหตุของการเสียชีวิตที่เเท้จริงต่อไป อย่างไรก็ตา ทางบรรดาสื่อในบ้านเรา ต่างก็ตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัย สันนิษฐานกันไปต่างๆนานา
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลา09.00 น. วันที่26 ธันวาคม ร.ต.อ.วีรยุทธ์ สุขแสง รองสว.สอบสวน สภ.สระยายโสม ได้รับมอบอำนาจจาก นางสาวมอ อายุ 20 ปี มารดา ของเด็กชายซูลุยผิว อายุ 2 ขวบ ชาวเมียนมา ที่หายไปกลางไร่อ้อย จ.สุพรรณบุรี นานกว่า 9 วัน และเมื่อวานนี้พบศพในสภาพเน่าเปื่อยอยู่บริเวณร่องน้ำกลางไร่อ้อย ห่างออกไปจากจุดที่ปูพรมค้นหาประมาณ 200 เมตร เดินทางมาฟังผลการชันสูตรพลิกศพและรับร่างของเด็กชายซูลุยผิว เพื่อนำกลับไปให้ญาติทำพิธีกรรรมทางศาสนา ที่วัดนัทวัน ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
ต่อมา เวลา 16.00 น. ร.ต.อ.วีรยุทธ์ เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรเบื้องต้น จากการผ่า2รอบ โดยรอบแรกแพทย์เวรประจำวันเป็นผู้ผ่า รอบสองเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ซึ่งไม่พบร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากของมีคม ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย มีเพียงการถูกกัดแทะจากสัตว์เท่านั้น ตรวจสอบกระดูกไม่มีร่องรอยแตกหัก
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่าเด็กชายซูลุยผิว สภาพศพบริเวณขามีลักษณะผิดรูปนั้น เกิดจากสภาพศพที่เน่าเปลื่อย ทำให้ข้อต่อตามจุดต่างๆบิดผิดรูป ซึ่งสรีระข้อต่อของเด็กกับผู้ใหญ่จะต่างกัน คาดว่าเสียชีวิตตั้งแต่5-10 วัน เบื้องต้นส่งเสื้อผ้าของผู้ตายตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย ส่วนอาหารในกระเพาะไม่สามารถตรวจได้ เนื่องจากสภาพภายในเน่าเปื่อย ตอนนี้ยังไม่ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอผลการตรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง
ด้านพล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยทางโทรศัพท์กับทีมข่าว ว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งแนวทางการสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตหลายแนวทาง แต่ยังไม่ได้ให้น้ำหนักชี้ไปทางใดทางหนึ่ง เนื่องจากต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน และผลการผ่าชันสูตรจากแพทย์นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักฐานสำคัญที่ศาลรับฟัง ประกอบกับสภาพศพเสียชีวิตมาหลายวันจึงสันนิษฐานทันทีไม่ได้
จากการลงพื้นที่ตรวจสภาพศพ พบว่าส่วนหลังจมน้ำไปครึ่งหนึ่ง สภาพร่างกายเน่าเปื่อย เกือบเหลวทั้งหมดแต่เมื่อดูจากผิวหนังบางส่วนที่แข็งด้าน พบรอยเขี้ยวของสัตว์ เช่น หนู,เหี้ยมหรือตัวเงินตัวทอง แต่ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตหรือไม่ ส่วนบริเวณรอบๆศพ ยังไม่พบข้อพิรุธหรือร่องรอยของบุคคลอื่นแต่อย่างใด ผบก.จว.สุพรรณบุรี กล่าว
.
ขอบคุณ
ประชาสัมพันธ์ ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี