ศาล ตัดสินประหารชีวิต "พูล้า" หนุ่มลาว ก่อคดีปาดคอปลิดชีพ

กรณี ท้าวพูล้า อายุ22 ปี สัญชาติลาว ใช้อาวุธมีดปาดคอยาย-หลาน ในพื้นที่อ.พระประเเดง

 

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561  ตำรวจมุกดาหาร ได้จับกุมตัว ท้าวพูล้า อายุ 22 ปี สัญชาติลาว ใช้อาวุธมีดปาดคอฆ่า นางมะลิ อิ่มสวัสด์ อายุ 67 ปี และ ด.ญ.อสห์ยา เพิกเฉย อายุ 12 ปี เสียชีวิต ส่วนด.ญ. อาภารัตน์ สำรวจ อายุ 9 ขวบถูกปาดคอได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังมีแมว 1 ตัวถูกฆ่าปาดคอ เหตุเกิดในบ้านพักหลังหนึ่ง ภายใน ซ.เพชรหึงษ์ 23 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ. สมุทรปราการ

ศาล ตัดสินประหารชีวิต "พูล้า" หนุ่มลาว ก่อคดีปาดคอปลิดชีพ

 


    ย้อนกลับไปจากการที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการอนุมัติหมายจับที่ 738 / 2561 ให้จับท้าวพูล้า หรือนายพูล้า สัญชาติลาว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  ซึ่งชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร จับกุมนายพูล้า ได้บริเวณริมแม่น้ำโขง ชุมชนบ้านนาโปน้อย ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร

 

ศาล ตัดสินประหารชีวิต "พูล้า" หนุ่มลาว ก่อคดีปาดคอปลิดชีพ

การสอบสวนในเบื้องท้าวพูล้า ยอมรับว่าเป็น บุคคลเดียวกันที่ถูกออกหมายจับและยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ที่ลงมือทำไปเพราะเมายาบ้า เเละต้องการเงินไปซื้อยามาเสพ  ชุดสืบสวนจึงควบคุมตัวท้าว พูล้า ไปฝากขังไว้ที่ สภ.เมืองมุกดาหาร ก่อนส่งต่อมาให้ชุดสืบสวนของ สภ.พระประแดง คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

ศาล ตัดสินประหารชีวิต "พูล้า" หนุ่มลาว ก่อคดีปาดคอปลิดชีพ

ศาล ตัดสินประหารชีวิต "พูล้า" หนุ่มลาว ก่อคดีปาดคอปลิดชีพ

 

ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ 21 มีนาคม 2562  นั้น ศาลจังหวัดสมุทรปราการ  ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว  การที่จำเลยใช้อาวุธมีด ซึ่งมีความแหลมคม และมีขนาดความยาวรวมด้าม 40 ซม. ปาดลำคอนางมะลิ กับใช้อาวุธมีดซึ่งมีความแหลมคมและขนาดความยาวรวมด้าม 39 ซม. ปาดลำคอเด็กหญิงอิสห์ยาจนถึงแก่ความตาย และปาดคอเด็กหญิงอาภารัตน์ จนเกิดบาดแผลฉีกขาดที่ลำคอด้านหน้า ขนาดใหญ่ และลึกถึงขนาดทำให้หลอดลมและหลอดอาหารฉีกขาด เสียเลือดปริมาณมาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย

 

ศาล ตัดสินประหารชีวิต "พูล้า" หนุ่มลาว ก่อคดีปาดคอปลิดชีพ

 

จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษประหารชีวิตเพียงสถานเดียว แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เพราะจำเลยกระทำโดยอุกอาจต่อหญิงชราและเด็กหญิงอย่างโหดเหี้ยมทารุณผิดวิสัยมนุษย์ นับเป็นภัยต่อสุจริตชน จึงไม่มีเหตุอันควรปรานีที่จะลดโทษให้

 

 

 

ขอบคุณ

บิ๊กเกรียน