เสี่ยเมาแล้วขับ ควบเบนซ์ชนรถ รอง ผกก.กองปราบ ดับ พร้อมภรรยา ลูกสาวรอด


เมื่อเวลา 01.00น. ของคืนวันที่ 12 เม.ย. 2562ร.ต.อ.พิทักษ์ พูลพุทธา รอง สว.(สอบสวน) สน.ศาลาแดง  รับแจ้งเหตถ รถเก๋งส่วนบุคคลชนกันมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ บนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง ทวีวัฒนา เขต ทวีวัฒนา  กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมอุปกรณ์เครื่องตัดถางของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวรรพ.ศิริราช
 

 

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)

 

   ที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพาน ข้ามคลองไม่มีชื่อ พบ รถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กก 3653 กรุงเทพมหานคร  ล้อหลังเกยขึ้นอยู่บนราวกันสะพาน ด้านหน้ารถและด้านข้างรถฝั่งขวาพังยับเยินกลายเป็นซากรถ. จากการตรวจสอบบนเบาะที่นั่งคนขับพบศพ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล  รอง ผกก(สอบสวน)กองกำกับการ 2 กองปราบปราม เสียชีวิตคาเบาะที่นั่งคนขับถูกคอนโซลรถกดทับร่าง อาสาสมัครช่วยกันใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถางช่วยกันนำร่างออกมาชันสูตร ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อเชิ้ตสีเหลือง กางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลฉกรรจ์ ที่บริเวณใบหน้า นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อีก 2 รายเป็นผู้โดยสารมากับรถคันดังกล่าว

 

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)

 

ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาสาสมัครเร่งนำส่งรพ.วิชัยเวชเป็นการด่วน. อีกรายทราบชื่อต่อมาคือ  นาง นุชนาถ งามสุวิชชากุล 44ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติ อาสาสมัครเร่งนำส่งรพ.ราชพิพัฒน์ เพื่อยื้อชีวิตแพทย์ได้ช่วยกันยื้อชีวิตกระทั้งเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่รพ. ถัดไปบริเวณเชิงสะพาน พบรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ รุ่น อี 250 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร

 

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)

 

 

สภาพหน้าหน้าขวาพังยับเยินล้อรถหักผิดรูป ทราบชื่อคนขับต่อมาคือ นาย สมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ 57 ปี ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์. อยู่ในสภาพคล้ายคนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่สน.ศาลาแดง จากการตรวจเครื่องวัดปริมาณแฮลกอฮอพบว่ามีปริมาณแฮลกอฮอ 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ 


ร.ต.อ.พิทักษ์ เผยว่าขณะที่อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ขับขี่รถเบนซ์คันดังกล่าวซึ่งยังอยู่ในสภาพมึนเมายังให้การไม่รู้เรื่องและไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต้องรอให้อาการสร่างเมากว่านี้จึงจะทำการสอบปากคำถึงเหตุการณ์ ทั้งนี้ต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอีกรายที่ยังรักษาตัวให้อาการปลอดภัยพร้อมที่จะให้การได้พร้อมทั้งตรวจหากล้องวงจรปิดเพื่อหาเหตุการณ์ก่อนแจ้งข้อหากับนาย สมชาย

 

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเมาแล้วขับ กับนายสมชาย ก่อนนำตัวเข้าห้องขังเพื่อให้สร่างเมาอย่างไรก็ตามจะได้ส่งศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2ให้แพทย์นิติเวชรพ.ศิริราชชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)


รายงานข่าวระบุว่า นาย สมชาย เป็นเจ้าของโรงงานผลิตและจำหน่ายทั้งในและน้องประเทศ ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ประเภทกราไฟต์ และคาร์บอนที่ใหญ่และล้ำสมัยที่สุดในในระดับเอเชียรวมถึงผลิตชิ้นส่วนรถยนต์  ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุพบว่า นายสมชายอยู่ในสภาพเมาพูดจาไม่รู้เรื่องรวมถึงโวยวายและพูดจาต่อว่ากับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร แต่เมื่ออาสาสมัครนำส่วเพื่อตรวจร่างกายยังรพ.ธนบุรี 2 นานสมชายกับโวยวายเจ้ากน้าที่จึงต้องควบคุมตัวหปสงบสติอารมณ์ที่สน.ศาลาแดง อย่างไรก็ดีสภาพของนาย สมชายยังมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องรวมถึงยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น

 

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)

 

ความคืบหน้าล่าสุดนั้น ล่าสุด พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง เพื่อสอบปากคำนายสมชาย เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก่อนระบุว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาแก่นายสมชาย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ทั้งสิ้น 5 ข้อหา เช่น ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นต้น โดยผู้ต้องหายอมรับว่า ดื่มสุราจนมึนเมาจริงพร้อมให้การยอมรับ 3 ข้อหา และปฏิเสธ 2 ข้อหา คือ ปฏิเสธข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่า

 

เเจ้ง5ข้อหา เสี่ยขับเบนซ์ ให้การไม่รู้เรื่อง (คลิป)


พล.ต.อ.วิระชัย ยังบอกถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเกิดจาก ขับรถด้วยความเร็วสูงและยังดื่มสุราเป็นจำนวนมากจนมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องรู้ได้ว่าจะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ แต่กลับยังขับรถออกมาและขับเข้าไปในเลนของรถฝั่งตรงข้าม จนทำให้รถของพ.ต.ท.จตุพร ไม่อาจหักหลบได้ จนเกิดเป็นอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น จึงถือได้ว่าผู้ต้องหามีเจตนาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต จากนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้สอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมเชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ก่อนจะเร่งให้เจ้าหน้าที่สรุปสำนวนคดีและส่งฟ้องต่อศาลโดยเร็ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะนำตัวส่งฟ้องได้ภายในวันใด สำหรับผู้ต้องหาจะยื่นประกันตัวหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ส่วนการคัดค้านการประกันตัว อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะพิจารณา

 

สำหรับญาติผู้ต้องหาขณะนี้ ได้เดินทางไปดูแลบุตรสาวพ.ต.ท.จตุพร แล้ว ส่วน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบเรื่องแล้วและได้แสดงความเป็นห่วงครอบครัวผู้เสียชีวิตพร้อมสั่งให้ดูแลเป็นอย่างดี โดยขณะนี้บุตรสาวของพ.ต.ท.จตุพร ยังรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินไอซียู จึงยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ทั้งยังมีบุตรอีกคนที่เรียนอยู่ต่างประเทศด้วย  ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐานกำลังเดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลศาลาแดงเพื่อเข้าตรวจสอบรถยนต์ทั้งสองคันที่เกิดอุบัติเหตุ และหลังการตรวจสอบแล้ว พล.ต.อ.วิระชัย จะเดินทางไปตรวจสอบสถานที่ที่เกิดเหตุต่อไป

 

 

ขอบคุณ

จส100