ศาลอุทธรณ์พิพากษา อดีตผู้ว่าททท. 50 ปี ลดโทษลูกสาวเหลือ 40 ปี

จากกรณีนี้เมื่อระหว่างวันที่ 25 ก.ย.45 ถึงวันที่ 20 ต.ค.49 นางจุฑามาศ จำเลยที่ 1 เรียกรับเงินจากนายเจอรัลด์ กรีน และนางแพทริเซีย กรีน สองสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกัน โดยนางจุฑามาศ แนะนำให้สามีภรรยาชาวอเมริกัน จัดตั้งบริษัทหลายๆแห่งเพื่อเข้าทำสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯปี 2546 (บางกอกฟิล์ม) โดยจำเลยเรียกรับเงินจำนวน 52,800 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการให้บริษัทของสามีภรรยาได้ทำสัญญาจ้างและช่วยจ้างการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ฯบางกอกฟิล์ม

จากกรณีนี้เมื่อระหว่างวันที่ 25 ก.ย.45 ถึงวันที่ 20 ต.ค.49 นางจุฑามาศ จำเลยที่1 เรียกรับเงินจากนายเจอรัลด์ กรีน และนางแพทริเซีย กรีน สองสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกัน โดยนางจุฑามาศ แนะนำให้สามีภรรยาชาวอเมริกัน จัดตั้งบริษัทหลายๆแห่งเพื่อเข้าทำสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯปี 2546 (บางกอกฟิล์ม) โดยจำเลยเรียกรับเงินจำนวน 52,800 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการให้บริษัทของสามีภรรยาได้ทำสัญญาจ้างและช่วยจ้างการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ฯบางกอกฟิล์ม 
 

โดยก่อนหน้านี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีอัยการ ยื่นฟ้อง นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าฯ ททท. และ น.ส.จิตติโสภา ลูกสาว ร่วมกันเรียกรับเงินจากเอกชนอเมริกา จัดโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ที่กรุงเทพฯ ปี 45 ที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซ.สีคาม (ซ.วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล) แยกศรีย่าน ถ.นครไชยศรี

 

นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าฯ ททท.


ทั้งนี้ บุตรสาวจำเลยที่ 1 เป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนโดยการเปิดบัญชีธนาคาร HSBCPCL ประเทศอังกฤษธนาคาร HSBC INTERNATION Limited ไอยล์ ออฟ เจอร์ซีย์ ธนาคารซิตี้แบงก์และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ประเทศสิงคโปร์ เพื่อโอนเงินเข้า บัญชีจำเลยโดยจำเลยให้การปฏิเสธและได้ประกันตัวไปคนละ 1 ล้านบาทในชั้นพิจารณาคดีศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่าพยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ จึงพิพากษา จำคุกนางจุฑามาศจำเลยที่ 1 รวม 50 ปี ส่วน น.ส.จิตตโสภา บุตรสาว จำเลยที่ 2 จำคุกรวม 44 ปี ริบทรัพย์สินจำนวน 62 ล้านบาท สำหรับการริบทรัพย์ตกเป็นเงินของแผ่นดินกว่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ