ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.

กรณี ตร.ทล.แม่สอด จับกุม พม่า 2 คน ได้แก่ นส.นามิทู หรือ น้องหวาน และนายเดดไป่อู คนขับรถ พร้อมเงินสด16.5ล้านบาท

 กรณี ตร.ทล.แม่สอด จับกุม พม่า 2 คน ได้แก่ นส.นามิทู หรือ น้องหวาน และนายเดดไป่อู คนขับรถ พร้อมเงินสด16.5ล้านบาท เมื่อเช้าวันที่ 7 เมษายน 2563 ในข้อหานำเงินตราเข้าราชอาณาจักรเกินกว่ากฏหมายกำหนดโดยไม่ผ่านพิธีการศุลการกร และนำตัวผู้ต้องหาส่งไปยัง กองปราบปราม 

ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.
หลักจากนั้น จนท.ตร. ได้นำตัว2ผู้ต้องหา ไปขออณุญาติศาลฝากขังในผลัดแรก ทางด้านนายจ้าง 2 ผู้ต้องหาคือนาย จ่อเฮง นักธุรกิจค้าน้ำมันชาวพม่า ได้มอบอำนาจให้ นาย อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความเป็นผู้ดูแลคดี ได้ทำการขอประกันตัว และศาลได้อณุญาติให้ประกันตัว2ผู้ต้องหา ในวงเงินคนละ1ล้านบาท และติดกำไรติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ศาลอณุญาติ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา

ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.

 

โดยในวันที่14 เม.ย.63  เวลา13:00น. ทางด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้พา 2 ผู้ต้องหาชาวพม่า เดินทางไปที่ สภ.อ.แม่สอด ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ตร.ทล.ชุดจับกุม 7 นาย ประกอบด้วย พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม ผกก.๕ บก.ทล.,พ.ต.ท.ศตวรรษ บุญมี,พ.ต.ท.ณัฐพล ผ่องสุขสกุล รอง ผกก.๕ บก.ทล., พ.ต.ต.ณัฐกฤต กึ่งชัยภูมิ สว.ส.ทล.๑.กก.๕,ด.ต.มงคล ธุระ,ด.ต.พีระพงษ์ พรมดี,ส.ต.อ.ภูวดล ศรีจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.๑ กก.๕ ข้อหา ปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ข้อหาหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

 

 

เนื่องจาก ในวันเกิดเหตุ ตร.ทล. ชุดจับกุม ไม่ได้ทำตามระเบียบ ซึ่งเมื่อจับกุมแล้วไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนในท้องที่ในทันที แต่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปยังตู้ยามตร.ทล.แม่สอดแทน โดยไม่ได้แจ้งสิทธิ์ผู้ต้องหา ไม่ให้ติดต่อพบญาติ คนใกล้ชิด ทนายความ โดยชอบด้วยกฏหมาย และไม่ให้ใบบันทึกจับกุม ปิดประตูตู้ยามห้ามใครเข้าออก เมื่อนับเงินเสร็จ ในเวลา24:00น. ทางตร.ได้แจ้งกับ2ผู้ต้องหาจะพาไปยัง สภ.อ.แม่สอด แต่กลับนำไปยัง กก.ทล. จ.ตาก แทน

 

ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.

ทั้งยังได้จัดโต๊ะ ตั้งเงินของกลาง ให้ผู้ต้องหาทั้ง2 ยืนถ่ายรูปพร้อม จนท.ตร.ทล. 2 นาย โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ต้องหา และไม่มีการปิดบังใบหน้า ในภายหลังภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ทางสื่อมวลชน หลังจากนั้น ตร.ทล. ได้นำ2ผู้ต้องหาเดินทางมายัง กองบังคับการกองปราบปราม ถึงในเวลา 07:00 น. ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการกระทำความผิด ข้อหาปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ข้อหาหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,157, 310, 326, 328 

ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.

เพราะไม่ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83, 87 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 บัญญัติว่า “ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทำการจับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่าเขาต้องถูกจับ แล้วสั่งให้ผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับพร้อมด้วยผู้จับ” ดังนั้น เมื่อ จนท.ตร.ทล. จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนในท้องที่ สภ.แม่สอด แล้วจะต้องสั่งให้ผู้ต้องหาทั้งสองไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับคือ สภ.แม่สอด พร้อมด้วยผู้จับ นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 84 บัญญัติว่า “เจ้าพนักงานหรือราษฎรผู้ทำการจับต้องเอาตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทำการ ของพนักงานสอบสวนตามมาตรา 83 โดยทันที และเมื่อถึงที่นั้นแล้วให้ส่งตัวผู้ถูกจับแก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจของที่ทำการของพนักงานสอบสวนดังกล่าว”


นอกจากนี้ยังมีคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 ก็ได้มีคำสั่งทำนองเดียวกับ มาตรา 83, 84 ป.วิ.อาญา อีกด้วยจึงเห็นได้ว่า จนท.ตร.ทล. จะต้องเอาตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนคือ สภ.แม่สอด โดยทันที 

 

ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.

ดังนั้นการที่ 2 ผู้ต้องหา ไม่ได้รับสิทธิ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 7/1ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมหรือขังมีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก และให้ผู้ถูกจับ หรือผู้ต้องหามีสิทธิดังต่อไปนี้ด้วย


(1)พบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว
(2)ให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในชั้นสอบสวน
(3)ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร

 

 

ทนายอนันต์ชัย  เผยความคืบหน้า 2ชาวเมียนมา ขนเงิน16.5ล้านเข้าไทย  ชุดจับกุมเเถลงข่าวขัดคำสั่งตร.

 

นอกจากนี้การที่ ชุดจับกุมนำภาพ2ผู้ต้องหาไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นการแถลงข่าว หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเป็นการขัดคำสั่ง ตร.ที่ 855/2548 , ตร.ที่465/2550 อีกด้วย  ในส่วนของการนำเงินตราเข้าราชอาณาจักรเกินจำนวนโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรนั้น ผู้ต้องหาได้ยอมรับผิด โดยแจ้งว่าไม่ทราบขั้นตอน เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์วิกฤติโรคระบาดเช่นนี้มาก่อน ซึ่ง นายอนันต์ชัย ไชยเดช กล่าวว่า ความผิดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายศุลการกร