อดีตส.ส.จนมุม หลบหนีคดีฉ้อโกงตั้งเเต่ปี57

กองปราบรวบอดีต สส. ร่วมกันฉ้อโกง สั่งไวน์ ก่อนปิดโกดังย้ายหนี มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

19 ส.ค.63 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.๒ บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.๒ บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.๒ บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ ชุดปฎิบัติการ ๑ กองกำกับการ ๒ กองบังคับการปราบปราม

ได้ร่วมกันจับกุม นายพิสิษฐ หรือวิทยากร (สงวนนามสกุล) อายุ 59  ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง” ตามหมายจับของศาลแขวงนนทบุรี ที่ 54/2563ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563

อดีตส.ส.จนมุม หลบหนีคดีฉ้อโกงตั้งเเต่ปี57


สถานที่จับกุม บริเวณภายในซอยประชาชื่น 18 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยประมาณเดือนพฤษภาคม 2557 นายพิสิษฐ หรือ วิทยากร (ผู้ต้องหา) อ้างกับผู้เสียหายว่าจะสั่งซื้อไวน์จากผู้เสียหายมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท โดยแนะนำให้รู้จักกับผู้ร่วมก่อเหตุอีกคนซึ่งอ้างเป็นภรรยา เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง กว้างขวางในสังคม สามารถขายไวน์ของผู้เสียหายได้จำนวนมากๆ พร้อมขอซื้อไวน์ที่อยู่ในสต๊อกทั้งหมด โดยตกลงขอลดราคาครึ่งหนึ่ง และจะชำระเป็นเงินสด


ต่อมาผู้ต้องหาได้ให้ผู้เสียหายไปส่งไวน์ที่โกดังย่านดอนเมือง ซึ่งนายพิสิษฐฯ อ้างว่าเป็นสำนักงานของตน เมื่อครบกำหนดชำระเงิน ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ จึงได้เดินทางไปยังโกดังสินค้าดังกล่าว แต่พบว่าโกดังดังกล่าวได้ปิดทำการแล้ว จึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม

จนกระทั่งวันที่ 17 ส.ค.63 เวลาประมาณ 18.30 น. ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. ได้สืบทราบว่านายพิสิษฐ หรือวิทยากร (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาอยู่ภายใน คอนโดในซอยประชาชื่น 18 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. จึงได้เข้าทำการสืบสวน และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดี
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด และได้พูดคุยเจรจากับผู้เสียหายแล้ว
 

 

ที่มา
สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ