"บิ๊กโจ๊ก" เผยเจอตัวผู้ขายไซยาไนด์ ให้ "แอม สรารัตน์" ใช้วางยาเหยื่อแล้ว

บิ๊กโจ๊ก เผยล่าสุด เจอตัวคนขายไซยาไนด์ ให้ แอม สรารัตน์ นำไปก่อเหตุวางยาเหยื่อนับสิบรายแล้ว มีหลักฐานเอาผิด

วันที่ 24 พ.ค.66  คืบหน้าล่าสุดคดี "แอม ไซยาไนด์" ที่ อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถนนพระรามหก กรุงเทพฯ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเข้าหารือกับ นาย พรยศ กลั่นกรอง รองอธิบดีกรมโรงงาน เกี่ยวกับระเบียบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงมาตรการ การควบคุมดูแลการนำเข้า ควบคุมและจำหน่ายสารไซยาไนด์ ว่าเป็นไปตามระเบียบหรือไม่  สืบเนื่องจากกรณีที่ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ไปสั่งซื้อไซยาไนด์ออนไลน์มาก่อเหตุวางยาเหยื่อนับสิบราย

 บิ๊กโจ๊ก เผยเจอตัว ผู้ขายไซยาไนด์ ให้ แอม สรารัตน์ ใช้วางยาเหยื่อแล้ว

ซึ่งการหารือในครั้งนี้ จะมาตรวจสอบข้อมูลว่ามีบริษัทหรือโรงงานใดที่สั่งสารดังกล่าวแล้วนำไปจำหน่าย รวมถึงจะมีการหารือถึงข้อกฎหมายว่าจะเข้าข่ายความผิดอะไรบ้างในตัวของโรงงานที่นำไปจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลก่อนหน้านี้พบว่า การดำเนินงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีความหละหลวมอย่างมาก และพบช่องโหว่ ทั้งในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และตาม พรบ.ควบคุมวัตถุอันตราย 

 บิ๊กโจ๊ก เผยเจอตัว ผู้ขายไซยาไนด์ ให้ แอม สรารัตน์ ใช้วางยาเหยื่อแล้ว

 โดยใช้เวลาร่วมหารือประมาณ 30 นาที ก่อนที่ รองโจ๊ก จะลงมาให้สัมภาษณ์ ว่า ตอนนี้ทางตำรวจมีข้อมูลและหลักฐานที่เพียงพอในการดำเนินคดีกับโรงงานหรือบริษัทที่จำหน่าย ซึ่งตอนนี้พบเพียง 1 บริษัทที่เป็นผู้นำสารเข้ามา แต่การจำหน่าย ทางกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าห้ามนำไปจำหน่ายต่อ

  จึงทำให้มี โรงงานและบริษัทรายย่อย รวม 6 เจ้า มาซื้อสารดังกล่าวไปจำหน่ายต่อ และทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้สารคือ ใช้เพื่อการวิจัย และเพื่อกิจการโรงงานเท่านั้น 

 บิ๊กโจ๊ก เผยเจอตัว ผู้ขายไซยาไนด์ ให้ แอม สรารัตน์ ใช้วางยาเหยื่อแล้ว

   จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทที่นำเข้ามา มีการจำหน่ายไปอย่างถูกต้อง จำนวน 1,600 ขวด และยังพบว่า 6 ผู้ค้ารายย่อยซื้อไปจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์จำนวนกว่า 100 ขวด

   ซึ่งในจำนวนนี้มีบางผู้ค้าบางคน จำหน่ายให้ แอม รวมถึงยังพบว่ามีจำหน่ายให้บุคคลทั่วไป เพื่อไปใช้ ในการฆ่าตัวตายประมาณ 8 ถึง 9 รายอีกด้วย

 บิ๊กโจ๊ก เผยเจอตัว ผู้ขายไซยาไนด์ ให้ แอม สรารัตน์ ใช้วางยาเหยื่อแล้ว

    โดยหลังจากนี้ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปทำรายงานการสืบสวนแล้วส่งต่อกลับมาให้กรมโรงงาน เพื่อให้นำไปร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับผู้ค้ารายย่อย และโรงงานที่นำเข้า ที่ต้องรับผิดชอบในการจำหน่าย ผิดวัตถุประสงค์  ในความผิดฐาน "มีไว้ในครอบครอง  และจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์" ตอนนี้ตำรวจมีข้อมูลรายชื่อของผู้ค้ารายย่อยและบริษัทที่นำเข้าทั้งหมดแล้ว ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่คนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่สรุปได้ อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม