คนไทยใช้น้ำมันแพง ดันกลุ่มปตท.รวยขึ้นใช่หรือไม่..???

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

บริหารงานเก่ง หรือ โชคช่วย ...??? อุ๊แม่เจ้า... !!!กลุ่มปตท.ปี 60 รายได้เฉียด 2 ล้านล้านบาท.... 

คนไทยใช้น้ำมันแพง ดันกลุ่มปตท.รวยขึ้นใช่หรือไม่..???

เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยผลประกอบการของปตท.ปี 2560 มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1.559 ล้านล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน 74,552 ล้านบาท และเมื่อรับรู้ผลกำไรของบริษัทในกลุ่มตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 60,628 ล้านบาท ทำให้งบการเงินรวมของ ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1.996 ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16.1) และมีกำไรสุทธิรวม 135,180 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 42.9) คิดเป็นกำไร 46.74 บาทต่อหุ้น
 เฉพาะแค่ บริษัท PTTGC  ที่เป็นกิจการลูกของ ปตท. ปี 2560 กำไรสุทธิ 39,298 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้าโครงการลงทุน ด้วยปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพการผลิต ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น 

คนไทยใช้น้ำมันแพง ดันกลุ่มปตท.รวยขึ้นใช่หรือไม่..???

เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยผลประกอบการของปตท.ปี 2560 มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1.559 ล้านล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน 74,552 ล้านบาท และเมื่อรับรู้ผลกำไรของบริษัทในกลุ่มตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 60,628 ล้านบาท ทำให้งบการเงินรวมของ ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1.996 ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16.1) และมีกำไรสุทธิรวม 135,180 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 42.9) คิดเป็นกำไร 46.74 บาทต่อหุ้น
 เฉพาะแค่ บริษัท PTTGC  ที่เป็นกิจการลูกของ ปตท. ปี 2560 กำไรสุทธิ 39,298 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้าโครงการลงทุน ด้วยปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพการผลิต ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น 

โดย ปตท. จะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลรวมสำหรับผลการดำเนินงานปี 2560 ในอัตรา 20 บาทต่อหุ้น ซึ่งคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกองทุนวายุภักษ์จะได้รับเงินปันผลรวมประมาณ 3.67 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท. และบริษัทในเครืออีกประมาณ 3.46 หมื่นล้านบาท รวมเป็นรายได้นำส่งรัฐจากกลุ่ม ปตท. สำหรับผลประกอบการปี 2560 รวมประมาณ 7.13 หมื่นล้านบาท

คนไทยใช้น้ำมันแพง ดันกลุ่มปตท.รวยขึ้นใช่หรือไม่..???

ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 3 ปีที่ผ่านมา ปตท. ได้จัดทำแผนการลงทุน 5 ปี (2561-2565) ตาม กลยุทธ์ แผนระยะสั้นเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน) Decide Now (แผนระยะกลางเพื่อการเติบโต) Design Now (แผนระยะยาวเพื่อสร้าง New S-Curve) ในวงเงิน 3.4 แสนล้านบาท ครอบคลุมการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ได้แก่ ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 คลังรับก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) การปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีก การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ รวมทั้งการศึกษาธุรกิจใหม่ที่จะเป็น New S-Curve ในอนาคต อาทิ โครงการ Ethane Extraction โครงการความร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม และ Electricity Value Chain ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ EEC ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยได้เตรียมงบประมาณสำรองในส่วนนี้เพิ่มอีกประมาณ 2.4 แสนล้านบาท
ภายใต้หลักการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตในระยะยาว ปตท. ยังมุ่งเน้นการทำธุรกิจแบบมีส่วนร่วม (Inclusive Business) และดำเนินกิจการเพื่อสังคมอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยมีโครงการหลักที่ได้ดำเนินการ ได้แก่
• การจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ข้าว ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. และพัฒนาไปสู่ศูนย์สินค้า Roadside Station ในพื้นที่ท่องเที่ยว
• การพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ ชุมชน อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่คุ้ง บางกะเจ้า
• การสนับสนุนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ให้เป็นสถาบันการศึกษาและวิจัยชั้นนำของภูมิภาค
• การสนับสนุนการกีฬาและนักกีฬาไทย ให้สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทย
• การจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่เชื่อมโยงการพัฒนาสังคมกับการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ของกลุ่ม ปตท. อาทิ ร้านกาแฟอเมซอนของผู้พิการ
นอกจากนี้ ปตท. อยู่ระหว่างศึกษาการใช้ประโยชน์ความเย็นจากคลังรับ LNG เพื่อทำห้องเย็นสำหรับผลไม้ที่จังหวัดระยองอีกด้วย