ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

การมาเยือนของนายแจ็ค หม่า และจุดเริ่มต้นความร่วมมือของอาลีบาบาและรัฐบาลไทย ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่การประชุมจี 20 ณ ประเทศจีน ในเดือนกันยายน ปี 2559 ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายแจ็ค หม่า ได้หารือกันถึงความเป็นไปได้ของการร่วมมือ ต่อมาวันที่ 11 ตุลาคม 2559 นายแจ็ค หม่า มาเยือนไทยและขึ้นปาฐกถา ณ กระทรวงการต่างประเทศ  ในหัวข้อ “Talk by Mr. Jack Ma on Global Trade Revolution:  Building a New e-Trade Platform for SMEs”

หลังจากนั้น วันที่ 9-11 ธันวาคม 2559 ในขณะเดินสายชักชวนนักลงทุน ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยได้ลงนามบันทึกความตั้งใจร่วมกับนายแจ็ค หม่า 4 ประเด็น ได้แก่

ฝึกอบรมเหล่าผู้ประกอบการ SME ทางด้านอีคอมเมิร์ซให้ได้ถึง 30,000 ราย โดย Lazada Group ซึ่งเป็นของ Alibaba จะมารับบทบาทนี้เป็นหลัก และจะเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์เพื่อให้รัฐบาลไทยสามารถสร้าง National e-Commerce Platform ได้สำเร็จด้วย

ทำโครงการพัฒนาบุคลากร People and Talent Development Programme เพื่อฝึกอบรมบุคลากรราว 10,000 คนให้มีทักษะทางเทคโนโลยีมากขึ้น

Alibaba และ Lazada จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำ Supply Chain และ Logistics ให้กับไปรษณีย์ไทย

พัฒนาความร่วมมือต่างๆ เพิ่มเติม ภายใต้โครงการ Eastern Economic Corridor Development ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น Hub ทางด้าน Digital Technology ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แม้ว่าต่อมาในช่วงต้นปี 2560 จะมีข่าวการลงทุนเขตเสรีดิจิทัล (Digital Free Trade Zone: DFTZ) ของอาลีบาบาในประเทศมาเลเซีย  และเรื่องทำให้เกิดการดิสเครดิตรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์

อย่างเช่นกรณีที่นาย พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงานเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 27 มีค.2560 ว่า “ตามที่อาลีบาบา ประกาศว่าจะไปตั้งศูนย์กระจายสินค้าในประเทศมาเลเซียแทนที่จะตั้งในประเทศไทย ทั้งๆที่ประเทศไทยมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมกว่า และนาย เเจ็ค หม่า ยังเคยมาเยือนไทยถึง2หน  และรัฐบาลอ้างเสมอว่าสนิทสนมมากกับนาย แจ็ค หม่า แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถชักชวนให้อาลีบาบามาตั้งในประเทศไทยได้ นาย แจ็ค หม่าบอกว่าได้คุยกับนายก มาเลเซีย 10 นาทีก็ตัดสินใจเลย

แสดงให้เห็นความแตกต่างของวิสัยทัศน์ของผู้นำที่เขามองออก โดยเหตุผลหนึ่งที่นาย แจ็ค หม่า เลือกที่จะตั้งในประเทศ มาเลเซียคือ มาเลเซียมีความเป็นมิตรทางธุรกิจ ซึ่งหากพิจารณาประเทศไทยที่มีปัญหาทางการเมืองมายาวนาน และยังไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ อีกทั้งระบอบการปกครองที่ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก ...จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไม  อาลีบาบา  และ แจ็ค หม่าถึงเลือกจะตั้งศูนย์กระจายสินค้าในมาเลเซียแทนที่จะเป็นประเทศไทย

 

แกะรอย ดิลหมื่นล้าน "แจ็คหม่า" สู่เส้นทางEEC  1ปี6เดือน บทพิสูจน์ความสำเร็จ แม้จะต้องเจอขวากหนาม!!!

 

การกระพือข่าวดังกล่าวของคนกลุ่มนี้ในทำว่า เขาหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปแล้ว จะไม่กลับมาอีก ซึ่งความเป็นจริงคือ มีหลายแบบ หลายอย่าง หลายด้านหลายวิธีให้ได้แยกลงทุนตามจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอาลีบาบาในแต่ละประเทศต่างหาก อีกทั้งรัฐบาลไทยก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ได้ออกมายืนยันว่าความร่วมมือยังคงมีอยู่ ซึ่งตลอดปี 2560ที่ผ่านมา ได้มีการหารือในระดับต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องจนนำมาสู่การลงนามความร่วมมือในเมื่อที่19 เม.ย. ที่ผ่านมา อันประกอบไปด้วย

 

 1) โครงการลงทุนสร้างศูนย์ Smart Digital Hub ลงทุนในพื้นที่ EEC เงินลงทุนก้อนแรกถึง1.1หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์ประมวลข้อมูลโลจิสติกส์รองรับขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน ข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก  มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

 

2) โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรรองรับการส่งเสริมธุรกิจผ่าน E-Commerce โดยอาลีบาบาจะร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มุ่งพัฒนากลุ่มคนเก่ง หรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาเสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา นำ Platform E-Commerce มาใช้อบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการไทย

 

3)โครงการร่วมส่งเสริม พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startup ของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการ Startup ระดับชุมชนทั่วประเทศ 

 

4) อาลีบาบา เตรียมร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) จัดทำ Thailand Tourism Platform บนออนไลน์เชื่อมโยงข้อมูลทางการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวชุมชน คาดว่ารายได้จากธุรกิจอีคอมเมิรซ์จะเติบโต 113,400 ล้านบาท ในปี 2561 เพิ่มเป็น 186,500 ล้านบาท ในปี 2565

 

และนี่ต้องถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ,ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รวมไปถึง ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ในการผลักดันสร้าง EEC สร้างอนาคตทางเศรษฐกิจไทย ให้แข็งแรง มังคง มั่งคัง และยั้งยืน เพื่อคนไทย

 

แกะรอย ดิลหมื่นล้าน “แจ็คหม่า -EEC” 1ปี6เดือน บทพิสูจน์ความสำเร็จ แม้จะต้องเจอขวากหนาม!!

 

แกะรอย ดิลหมื่นล้าน "แจ็คหม่า" สู่เส้นทางEEC  1ปี6เดือน บทพิสูจน์ความสำเร็จ แม้จะต้องเจอขวากหนาม!!!