แจ็คหม่า ฟีเวอร์!! เล็ง2 พื้นที่ตั้งฮับ.. ไทยเนื้อหอม 400 ทุนจีนจ่อดิล EEC เพิ่ม!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

‘คณิศ’ ดึง 400 บริษัทจีน ลงทุนอีอีซีเพิ่ม หลัง ‘แจ็ค หม่า’ ทุ่ม 1.1 หมื่นล้าน ปักหมุดสมาร์ท ดิจิตอล ฮับ ที่ฉะเชิงเทรา ... ‘อมตะ-WHA’ ลุ้นอาลีบาบาเลือกพื้นที่นิคมอุตฯ แห่งใหม่ ... นายกสมาคมค้าออนไลน์ห่วงกระทบ อี-คอมเมิร์ซไทย สินค้าจีนทะลัก

นำร่องไปแล้วสำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) 4 ฉบับ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยและบริษัทในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลของไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยมีความร่วมมือในหลากหลายมิติ อาทิ การส่งเสริม SMEs ทุกระดับเข้าสู่ อี-คอมเมิร์ซ การพัฒนาของดาวเด่น หรือ Talents ของไทย ในด้านดิจิตอล การยกระดับระบบโลจิสติกส์ โดยอาศัยเทคโนโลยีชั้นนำของอาลีบาบา และการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านระบบดิจิตอล โดยมี นายแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหารกลุ่มอาลีบาบา กรุ๊ป เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยาน

 

 

แจ็คหม่า ฟีเวอร์!! เล็ง2 พื้นที่ตั้งฮับ.. ไทยเนื้อหอม 400 ทุนจีนจ่อดิล EEC เพิ่ม!!

 

การลงนามครั้งนี้ถือเป็นการนำร่อง ที่จะดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนตามมาอีกเป็นระลอก เพราะนอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว อาลีบาบายังทุ่มเงินลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการสมาร์ท ดิจิตอล ฮับ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น
 

แจ็ค หม่า โปรยยาหอมไทย
นายแจ็ค หม่า กล่าวว่า ความร่วมมือและแผนลงทุนที่มีในประเทศไทยนั้น ไม่ได้มีแต่เรื่องการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของ อี-คอมเมิร์ซ เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล ส่วนประเด็นที่มีความกังวลมากกว่าใครจะได้เปรียบ-เสียเปรียบ อาลีบาบาจะเข้ามากินรวบ ครอบงำธุรกิจไทยหรือไม่ จะมั่นใจได้อย่างไรว่า การเข้ามาของอาลีบาบานั้นจะเป็นในลักษณะของ Win-Win คือ ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย แจ็ค หม่า ไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ว่า “ความจริงแล้ว ควรจะต้องเรียกว่ามี 3 Win ด้วยซ้ำ หมายถึงโครงการของอาลีบาบาจะทำให้เกิดผู้ได้ประโยชน์ 3 ฝ่าย คือ ประชาชนหรือผู้บริโภค หุ้นส่วนของเรา และตัวเราเอง”

 

แจ็คหม่า ฟีเวอร์!! เล็ง2 พื้นที่ตั้งฮับ.. ไทยเนื้อหอม 400 ทุนจีนจ่อดิล EEC เพิ่ม!!

 

แจ็ค หม่า ยังระบุอีกว่า อาลีบาบามีแนวคิดการทำงานมุ่งช่วยและเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ และสร้างการเติบโตให้กับ SMEs คนรุ่นใหม่ และเกษตรกร ซึ่งที่ผ่านมา พวกเขาเป็นคนธรรมดา ๆ คนตัวเล็ก ๆ ไม่ค่อยมีสิทธิ์มีเสียงอะไร “ผมไม่ได้สนใจคนที่พูดว่า เราจะมาแย่งงานคนไทย แต่ผมสนใจและมุ่งหวังที่จะทำให้ SMEs ไทย เกษตรกรและคนรุ่นใหม่ของไทยประสบความสำเร็จ นี่คือ พันธกิจที่เราจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนให้ประสบความสำเร็จในประเทศไทย”

 

ท่องเที่ยว-ส่งออก จุดแข็งไทย
นอกจากประเทศไทย อาลีบาบายังมีโครงการลงทุนและความร่วมมือในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซีย โดย แจ็ค หม่า วิเคราะห์ว่า ไทยมีจุดแข็งอย่างมากด้านการท่องเที่ยว คนจีน 10 ล้านคน แห่มาเที่ยวไทยในแต่ละปี ถ้าสามารถนำระบบดิจิตอลมาเสริมเขี้ยวเล็บให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ก็จะยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนได้มากขึ้น

แจ็คหม่า ฟีเวอร์!! เล็ง2 พื้นที่ตั้งฮับ.. ไทยเนื้อหอม 400 ทุนจีนจ่อดิล EEC เพิ่ม!!

ในส่วนของสินค้าก็เช่นกัน แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ของอาลีบาบา ประกอบกับระบบโลจิสติกส์ที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรม จะช่วยให้สินค้าไทยบุกเข้าสู่ตลาดจีน ที่มีชนชั้นกลางกำลังซื้อสูง 30 ล้านคน ได้มากขึ้น กล่าวโดยสรุป คือ ไทยมีศักยภาพที่จะยกระดับทั้งด้านการท่องเที่ยวและการส่งออก ขณะที่ มาเลเซียมีศักยภาพหรือจุดแข็งที่จะพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอินเตอร์เน็ต
 


เล็ง 2 พื้นที่ ตั้งดิจิตอล ฮับ
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเมืองหางโจว เพื่อเชิญชวนนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในอีอีซี พบว่า นักลงทุนจีนประมาณ 400 ราย ต้องการขยายการลงทุนนอกประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากการลงทุนในจีนถึงจุดอิ่มตัว ทำให้ไทยเป็นประเทศเป้าหมายแรกที่นักลงทุนจีนตัดสินใจเข้ามาลงทุน

 

โดยเฉพาะการตัดสินใจลงทุนของกลุ่มอาลีบาบา ในการจัดตั้งสมาร์ท ดิจิตอล ฮับ พื้นที่ราว 300 ไร่ ใน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือกพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง คือ พื้นที่ของกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และกลุ่มบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA จะทำให้นักลงทุนจีนสนใจที่จะตามเข้ามาลงทุนในพื้นที่รอบ ๆ สมาร์ท ดิจิตอล ฮับ เพื่อลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ, ยานยนต์สมัยใหม่, บรรจุภัณฑ์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น



“ขณะนี้ ทาง สกรศ. มีทีมงานที่จะไปหารือกับนักลงทุนจีน ในกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชิญชวนเข้ามาลงทุน ซึ่งนักลงทุนจีน 400 ราย ถือเป็นกลุ่มที่ดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมไฮเทคอยู่แล้ว เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการ”

 

แจ็คหม่า ฟีเวอร์!! เล็ง2 พื้นที่ตั้งฮับ.. ไทยเนื้อหอม 400 ทุนจีนจ่อดิล EEC เพิ่ม!!

 

 

อมตะมั่นใจได้อานิสงส์
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ทางกลุ่มอาลีบาบาได้เข้ามาเจรจาที่จะเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ของบริษัท ที่อยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา เชื่อว่าในระยะอันใกล้นี้ น่าจะได้ข้อสรุป และมั่นใจว่า ทางอาลีบาบาจะเลือกพื้นที่ของอมตะ ซึ่งการลงทุนของกลุ่มอาลีบาบาในพื้นที่อีอีซี จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มนักลงทุนจีนที่จะตามมาลงทุนมากขึ้น ซึ่งการเตรียมพื้นที่รองรับไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากนิคมฯ แห่งใหม่มีพื้นที่ราว 5-6 พันไร่ ซึ่งบริษัทจะพัฒนาเป็น สมาร์ท ซิตี และดิจิตอล ฮับ อยู่แล้ว เมื่อทั้ง 2 ฝ่าย มีแนวคิดที่ตรงกัน ก็น่าจะเป็นพันธมิตรกันได้ และยังมีพื้นที่ว่างรองรับนักลงทุนจีนได้อีกมาก
 

 


หวั่นสินค้าจีนทะลักไทย
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า การเข้ามาเซ็นเอ็มโอยูของอาลีบาบากับรัฐบาล เพื่อสนับสนุนด้าน อี-คอมเมิร์ซ ในไทย มองในระยะสั้นจะช่วยกระตุ้นการซื้อสินค้าออนไลน์ของไทยให้เติบโตขึ้น เนื่องจากอาลีบาบามีความเชี่ยวชาญด้าน อี-คอมเมิร์ซ โดยเป็นแพลตฟอร์มระดับโลก และมีการทุ่มเงินลงทุนการตลาดมหาศาล แต่ที่น่ากังวล คือ การที่เข้ามาลงทุนวางโครงสร้างพื้นฐานด้าน อี-คอมเมิร์ซ ทั้งหมด ทั้งมาร์เก็ตเพลส ระบบชำระเงิน ระบบคลังสินค้า และการขนส่งสินค้า โดยมีภาครัฐให้การสนับสนุน จะเป็นสะพานให้กับสินค้าจรนจะหลั่งไหลเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งในระยะยาวน่าจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ หรือ ผู้ผลิตสินค้าไทย ไม่สามารถแข่งขันได้ และทำให้ประเทศขาดดุลการค้าจีนที่เพิ่มขึ้น


ขอบคุณ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,359 วันที่ 22-25 เม.ย. 2561 หน้า 01-02