เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว

เปิดเบื้องหลังครม.ติดเบรค “ก.คมนาคม” ขวางฉุกเฉิน ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” สุดย้อนแย้ง ตีรวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอาชา เร่งหนักหวังพลิกคุณภาพชีวิตคนกรุงฯ ตั้งแต่ยุคนั่งหัวหน้าคสช.

ความวัวยังไม่ทันหาย...ความควายเข้ามาแทรกเต็ม ๆ  หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จากกรณี   "กระทรวงคมนาคม"   โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการฯ  ร่วมกับ นายวิษณุ เครืองาม  รองนายกรัฐมนตรี  เพิ่งโน้มน้าวให้ครม.เห็นชอบขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน เพื่อระงับข้อพิพาทคดีทางด่วนที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท ได้แก่ การแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และการแก้ไขสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา)  ทั้ง ๆ ที่ประเด็นข้อพิพาทต่าง ๆ ยังอยู่ชั้นการพิจารณาของศาลปกครอง และอนุญาโตตุลาการ  

แต่ปรากฎว่า  "ในที่ประชุมครม. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กลับเสนอเรื่องการต่ออายุสัมปทานทางด่วน BEM ให้ครม.พิจารณา ซึ่งที่ประชุมครม.ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเป็นเวลานาน โดยมีรัฐมนตรีฝั่งที่เห็นด้วยกันฝั่งที่ไม่เห็นด้วย แต่สุดท้าย ครม.ก็มีมติให้ต่ออายุสัมปทาน และให้ไปดำเนินการตามข้อเสนอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง"

มาคราวนี้ กระทรวงคมนาคม  โดยนายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ  คนเดิม  ได้ทำหนังสือลงวันที่ 16 พ.ย.2563  ส่งถึงเลขาคณะรัฐมนตรี  เแสดงความเห็นเพิ่มเติมกรณีขอความเห็นชอบผลการเจรจา และเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว  ซึ่งสาระสำคัญของหนังสือฉบับดังกล่าว ก็คือ  การเพิ่มเติมความเห็นจากข้อมูลที่กระทรวงคมนาคม ร่วมพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสีเขียวไปก่อนหน้า อาทิ   เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2562 ,  วันที่ 30 มี.ค. 2563 , วันที่ 9 มิ.ย.2563 และ วันที่ 17 ส.ค. 2563  ตามลำดับ

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว
"ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอความเห็นชอบประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี  เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้คณะรัฐมตรีพิจารณา โดยต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 263   ลงมติรับทราบผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบผลการเจรจาและได้ผ่านการตรวจร่างสัญญาฯ จากสำนักงานอัยการสูงสุดเรียบร้อยแล้ว และให้กระทวงการคลังพิจารณาเสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นต่อรายงาน เรื่อง การพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี"

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว
 

ผ่านไปกว่า 1 ปี  กระทรวงคมนาคม โดยกรมขนส่งทางราง  ได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริงแล้ว เห็นสมควรให้ความเห็นเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว อ้างถึงการดำเนินการเจรจาเพื่อต่อสัญญาสัมปทาน สมควรที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมภิบาล และเกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ 

 

ประเด็นข้อพิจารณาก็คือ  โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวดังกล่าว   เดิมมีกำหนดจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ  ในวันที่ 16 ธ.ค.ที่จะถึงนี้    โดย  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นประธาน  แต่กลายเป็นว่าล่าสุดยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามกำหนดหรือไม่    หลังจาก   โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว  ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต  ซึ่งทดลองวิ่งเพิ่มเติมอีก 4 สถานี  ประกอบด้วย  สถานีกรมป่าไม้ (N14) สถานีบางบัว (N15) สถานีกรมทหารราบที่ 11 (N16) และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) ระยะทางรวม 4.2 กิโลเมตร   พร้อมให้บริการฟรีมาตั้งแต่วันที่ 5  มิ.ย. 2563   เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพหลโยธินและ ถนนวิภาวดีรังสิต   กลับมามีปัญหาอีกครั้งในเรื่องข้อเจรจา


เนื่องจากผลการประชุมครม.เมื่อวันที่  17 พ.ย. ที่ผ่านมา  มีการยื่นหนังสือทักท้วงจากกระทรวงคมนาคม  ทำให้กระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้รับผิดชอบ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562   เรื่องการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสีขียว ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2562     ต้องถอนเรื่องผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว  ที่เสนอไว้ก่อนหน้าออกไป  ทั้งๆที่ก่อนหน้าทุกฝ่ายได้มีการเจรจาหาข้อยุติประเด็นต่าง ๆ มาเป็นลำดับ โดยเฉพาะเงื่อนไขการต่อสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับ  "บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์" 

 

คือ  จากสิ้นสุดสัญญาในปี 2572  ออกไปอีก 30 ปี  หรือ  จนถึงปี 2602   เพื่อควบคุมอัตราค่าโดยสารตลอดสายระยะทาง 66.4 กิโลเมตร  ไม่ให้เกินราคา 65 บาท รวม   โดยภาคเอกชนยอมเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้า และเครื่องกล (E&M) สำหรับส่วนต่อขยายที่ 2 ทั้งหมด  รวมถึงภาระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของหนี้เงินกู้ ที่กรุงเทพมหานครมีต่อกระทรวงการคลัง  เป็นจำนวนไม่เกิน 44,429 ล้านบาท 

 

ขณะที่ปัจจุบันกทม.เองก็ค้างชำรถค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือบีทีเอสซี ผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต  เป็นเงินกว่า 8,000 ล้านบาท  เนื่องจากรัฐบาลมอบให้ กทม.รับผิดชอบเดินรถ และส่วนที่เปิดให้บริการไม่ได้มีการเก็บค่าโดยสารแต่อย่างใด

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว


และถือเป็นข้อทักท้วงของกระทรวงคมนาคม   ที่มีข้อสังเกตประกอบว่าเกิดขึ้นในช่วงที่ผลการพิจารณาของภาคส่วนอื่น ๆ รวมถึงกระทรวงคมนาคม  ได้ร่วมกันดำเนินการไปเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว   ก่อนจะเข้าสู่ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563    ตามปรากฎอยู่ในหนังสือ  กระทรวงการคลัง  ที่ กค. 0820.1/20037 ลงวันที่ 16 พ.ย. 2563    โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ   รัฐมนตรีว่าการฯ   ให้ความเห็นชอบตามที่เคยมีการหารือร่วมทุกฝ่ายตามมติครม. เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2563  โดยเฉพาะข้อตกลงคุณธรรม ว่าด้วยการป้องการทุจริต  และการสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ  ที่มีการพิจารณาไปก่อนหน้าในช่วงยุคสมัย นายปรีดี ดาวฉาย เป็น รมว.การคลัง

 

รวมถึงหนังสือกระทรวงการคลัง ลงนามโดย  นายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ   ระบุด้วยซ้ำว่า  ไม่มีความเห็นเพิ่มเติม   จากที่กระทรวงคมนาคม ได้เคยเสนอผลการพิจารณาผลการศึกษาฯต่อคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ คค.(ปคร) 0202/192 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแล้ว

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว

 

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว


หรือเท่ากับว่าข้อทักท้วงเพิ่มเติมของกระทรวงคมนาคม   เพิ่งมาปรากฎในช่วงวันที่คณะรัฐมนตรี      พร้อมจะให้ความเห็นตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ    เนื่องจากทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องได้กลับไปร่วมพิจารณาประเด็นข้อทักท้วงต่างๆมาอย่างรอบด้านตามมติครม.ก่อนหน้า    รวมถึงกระทรวงคมนาคม  ของ   นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ    ส่งผลทำให้มีแนวโน้มอย่างสูงว่าระบบขนส่งมวลชน   อาจเกิดประเด็นปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี  แสดงเจตนาตั้งแต่ยุคเป็นหัวหน้าคสช. ต้องการให้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ดำเนินการครบ 59  สถานี  รวมระยะทาง 68.25 กิโลเมตร ในช่วงปลายปี 2563   

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว


คำถามทิ้งท้ายก็คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนัยแฝงอะไรหรือไม่อย่างไร   ในการออกมาขวางแผนการขยายอายุสัมปทาน  โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบปัจจุบันทันด่วน ทั้ง ๆ ที่มีส่วนร่วมในการพิจารณารายละเอียดข้อทักท้วงต่าง ๆ มาตั้งแต่ต้น จนนำมาสู่ข้อยุติก่อนเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันที่ 17 พ.ย. 2563  หลังจากเคยออกมาหนุนเต็มสูบ ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย ด้วยการปรับแก้ไขเงื่อนไขประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม  ทั้ง ๆ ที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์และเปิดประมูลไปแล้ว


จนท้ายสุดศาลปกครองกลาง   มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น


        
เนื่องจากศาลฯ เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) แม้คณะกรรมการคัดเลือกฯและ รฟม. ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมีอำนาจที่จะสามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่เกินขอบอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ประกอบกับในการแก้ไขหลักเกณฑ์ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีข้อเรียกร้องจากเอกชนผู้ซื้อซองอีกราย ที่มีสิทธิที่จะเข้าแข่งขันในการเสนอราคาในครั้งนี้ ในชั้นนี้จึงเห็นว่า กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และการแก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยใช้การประเมินซองที่ 2 และซองที่ 3 รวมกันแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนน "จึงเป็นคำสั่งที่น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฎหมาย"

 

เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว

( คลิกอ่านข่าวประกอบ :  ศาลปกครอง สั่งคุ้มครอง BTS ให้รฟม.กลับไปใช้เกณฑ์เดิม ประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม  )


เปิดเบื้องหลัง ศักดิ์สยาม  สุดย้อนแย้ง  พลิกลำขวางขยายสัมปทาน รถไฟฟ้าสีเขียว

>> ช้อปดีลเด็ดในแอพ Lazada ลดต่อเนื่องจาก 11.11 กดช้อปคลิกเลย <<