อ่านแล้วน้ำตาจิไหล งบ9แบงก์ เสือนอนกิน กินดอกพุงกาง กำไรพุ่ง1.5แสนลบ.

ประชาชนกัดก้อนเกลือกิน  แต่ธนาคารพาณิชย์ประกาศผลกำไรปี 60 มโหฬารบานตะไท 

ธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ยกเว้นธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)ได้แจ้งผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปี 60 รวมบริษัทในเครือ มีกำไรทั้งสิ้นรวมกัน 157,209.97 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 4,640 ล้านบาท จากปี 59 มีกำไรสุทธิ 161,850 ล้านบาท 
อย่างไรก็ตามทั้ง 9 รายต่างมีกำไร เพียงแค่กำไรลดลง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน หรือ เคแบงก์ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน หรือ เอสซีบี เพราะนำเงินไปตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญหรือ เอ็นพีแอล เพิ่ม ตามเกณฑ์บาเซิล 3 

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับปี 2560 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 34,338 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 14.53% จากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 40,174 ล้านบาท
เพราะปี 2560 ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อดำรงสถานะทางการเงินที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 148.45% ขณะที่สิ้นปี 2559 อยู่ ที่ระดับ 130.92%
สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณวันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ 17.96% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.66%

ด้าน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลดำเนินงานปี 60 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 43,152 ล้านบาท ลดลง 9.4% จากปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 47,612 ล้านบาท เป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาถึงหลักความระมัดระวัง รวมถึงการคาดการณ์ความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์ทางบัญชีที่จะบังคับใช้ปี 62 รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 11.6% ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีและการขยายฐานลูกค้าในช่องทางดิจิทัล สำหรับรายได้รวมของธนาคารเพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ

ปี 2560 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 2.83% เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่อยู่ 2.67% โดยธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 25,067 ล้านบาท หรือ 1.26% ของสินเชื่อรวม ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 137.3% จากปี 2559 ที่อยู่ 134.3%

อาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB กล่าวว่า ธนาคารได้เดินหน้าสู่ดิจิทัลแบงก์กิ้ง โดยเน้นขยายฐานลูกค้าผ่านระบบโมบายแบงก์กิ้ง และเทคโนโลยีการชำระเงินใหม่ๆ เช่น QR code ซึ่งจะเป็นทิศทางการเพิ่มฐานลูกค้าของธนาคารในอนาคต การให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวดีขึ้นมากในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และลูกค้าบุคคลตามสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
 

ส่วนกรุงเทพ กำไรสุทธิ 33,008.71 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,193.87 ล้านบาท จากปี 59 มีกำไรทั้งสิ้น 31,814.84 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กำไรสุทธิ 23,209.27 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,805.24 ล้านบาท จากปี 59 มีกำไรทั้งสิ้น 21,404.03 ล้านบาท ธนาคารทหารไทย กำไรสุทธิ 8,686.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 460.40 ล้านบาท จากปี 59 มีกำไรสุทธิ 8,226.25 ล้านบาท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือธนาคารทิสโก้ กำไรสุทธิ 6,090.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,084.12 ล้านบาท จากปี 59 มีกำไรสุทธิ 5,005.89 ล้านบาท ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กำไรสุทธิ 384.89 ล้านบาท จากปี 59 ขาดทุนสุทธิ 629.52 ล้านบาท ธนาคารเกียรตินาคิน กำไรสุทธิ 5,736.86 ล้านบาท มากขึ้น 190.40 ล้านบาท จากปี 59 กำไรสุทธิ 5,546.72 ล้านบาท แล้วก็บริษัทแอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ กำไรทั้งสิ้น 2,603.44 ล้านบาทลดลง 92.99 ล้านบาท จากปี 59 กำไรสุทธิ 2,696.43 ล้านบาท.