ติดตามข่าวสารได้ที่ www.attarote.com

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)

 

             กำลังเข้มข้นเข้าไปทุกที สำหรัลละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" ละครแนวพีเรียด คอมเมดี้ ที่กำลังมาแรง นอกจากความสนุกก็ยังมีในเรื่องของประวัติศาสตร์ที่สอดแทรกสาระความรู้ด้วยนะคะ แคมปัส-สตาร์ ขอนำเรื่องราวของ ท้าวทองกีบม้า หรือตัวละครที่ชื่อ "มารี กีมาร์" ในละคร บุพเพสันนิวาส (รับบทโดย ซูซี่-สุษิรา แอนจิลีน่า) มาให้ทุกคนได้อ่านเป็นความรู้กัน ในอดีตมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า มารี เธอรับราชการในห้องเครื่องต้น และได้เป็นผู้คิดประดิษฐ์ขนมไทยขึ้นมา อาทิ ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, ทองม้วน และหม้อแกง ขึ้นมา จนได้รับได้รับฉายา "ราชินีแห่งขนมไทย"
        
                เมื่อสมัยอยุธยา เริ่มมีการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับต่างประเทศทั้งชาติตะวันออกและตะวันตก ไทยเรายิ่งรับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ เครื่องมือเครื่องใช้ วัตถุดิบที่หาได้ ตลอดจนนิสัยการบริโภคของคนไทยเอง จนบางทีคนรุ่นหลังแทบจะแยกไม่ออกเลยว่า อะไรคือขนมไทยแท้ๆ อะไรที่เรายืมเค้ามา เช่น ทองหยิบ ทองหยอดและฝอยทอง หลายท่านอาจคิดว่าเป็นของไทยแท้ๆ แต่ความจริงแล้วมีต้นกำเนิดจากประเทศโปรตุเกส โดย “มารี กีมาร์” หรือ “ท้าวทองกีบม้า”

 

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)

           “ท้าวทองกีบม้า” หรือ “มารี กีมาร์” เกิดเมื่อ พ.ศ. 2201 หรือ พ.ศ. 2202 แต่บางแห่งก็ว่า พ.ศ. 2209 โดยยึดหลักจากการแต่งงานของเธอที่มีขึ้นในปี พ.ศ. 2225 และขณะนั้น มารี กีมาร์ มีอายุเพียง 16 ปี บิดาชื่อ “ฟานิก (Phanick)” เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมแขกเบงกอล ผู้เคร่งศาสนา ส่วนมารดาชื่อ “อุรสุลา ยามาดา (Ursula Yamada)” ซึ่งมีเชื่อสายญี่ปุ่นผสมโปรตุเกส ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในอยุธยา ภายหลังจากพวกซามูไรชุดแรกจะเดินทางเข้ามาเป็นทหารอาสา ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไม่นานนัก
           ชีวิตช่วงหนึ่งของ “ท้าวทองกีบม้า” ได้เข้าไปรับราชการในพระราชวังตำแหน่ง “หัวหน้าห้องเครื่องต้น” ดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหลวง เป็นหัวหน้าเก็บพระภูษาฉลองพระองค์ และเก็บผลไม้ของเสวย มีพนักงานอยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นหญิงล้วน จำนวน 2,000 คน ซึ่งเธอก็ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ชื่นชม ยกย่อง มีเงินคืนทองพระคลังปีละมากๆ ระหว่างที่รับราชการนี่เอง มารี กีมาร์ ได้สอนการทำขนมหวานจำพวก ทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง ทองพลุ ทองโปร่ง ขนมผิงและอื่นๆ ให้แก่ผู้ทำงานอยู่กับเธอและสาวๆ เหล่านั้น ได้นำมาถ่ายทอดต่อมายังแต่ละครอบครัวกระจายไปในหมู่คนไทยมาจนปัจจุบันนี้

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)

         ถึงแม้ว่า “มารี กีมาร์” หรือ “ท้าวทองกีบม้า” จะมีชาติกำเนิดเป็นชาวต่างชาติ แต่เธอก็เกิด เติบโต มีชีวิตอยูในเมืองไทยจวบจนหมดสิ้นอายุขัย นอกจากนั้น ยังได้ทิ้งสิ่งที่เธอค้นคิดให้เป็นมรดกตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง ได้กล่าวขวัญถึงด้วยความภาคภูมิ “ท้าวทองกีบม้า เจ้าตำรับอาหารไทย”
          "ท้าวทองกีบม้า" หรือ "มารี" เป็นอีกบุคคลในสมัยตอนปลายกรุงศรีอยุธยาได้นำวัฒนธรรมโปรตุเกสเผยแพร่เข้าสู่สังคมไทย เธอได้สร้างสรรค์ขนมหวานหลายชนิด โดยดัดแปลงจากตำรับอาหารโปรตุเกสให้เป็นขนมหวานของไทย ผสมผสานความรู้ด้านการทำอาหารที่มีมาแต่เดิม รวมเข้ากับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ทั้งยังสอนความรู้ดังกล่าวแก่เหล่าสตรีในบัญชา จนตำรับเป็นที่เผยแพร่โดยทั่วไปและตกทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง จากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ทำให้เธอได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งขนมไทย” โดยขนมที่เชื่อว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงเป็นขนมหวานของไทยนั้น มี 14 ขนมดังต่อไปนี้ ทองม้วน, ทองหยิบ, ทองหยอด, ทองพลุ, ทองโปร่ง, ฝอยทอง, กะหรี่ปั๊บ, ขนมหม้อแกง, สังขยา, ขนมผิง, สัมปันนี, ขนมขิง, ขนมไข่เต่า และลูกชุบ

 

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)

 

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)

 

 

*ครึ่งประเทศไม่เคยรู้!!! เปิดตำนาน"ขนมไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ที่ไม่ใช่ของคนไทย กินกันมาทุกยุค บอกเลยแทบไม่เคยมีใครรู้มาก่อน!!! (ชมคลิป)