***ไม่เคยรู้มาก่อน !! "กรุ๊ปเลือด" สามารถบอกความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายได้ อ่านแล้วรีบเช็คตัวเองด่วนๆ !?

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.attarote.com

 

หลายคนอาจจะเคยอ่านลักษณะนิสัยของแต่ละกรุ๊ปเลือดกันมาบ้าง บ้างก็ว่าตรง บ้างก็ว่าไม่ตรง แต่ที่แน่ๆ การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด "ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน" ทุกคน ทุกกรุ๊ปเลือดสามารถทานอาหารได้เหมือนกัน โดยมีความปลอดภัย และได้รับอันตรายจากอาหารเหล่านั้นเท่ากันด้วย

 

***ไม่เคยรู้มาก่อน !! "กรุ๊ปเลือด" สามารถบอกความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายได้ อ่านแล้วรีบเช็คตัวเองด่วนๆ !?

 

แต่สิ่งที่เป็นเรื่องจริง คือ กรุ๊ปเลือดสามารถบอกเราได้ว่าเรา "มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายอะไร" และเสี่ยงมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่นๆ หรือไม่?

 

 • เลือดจับตัวเป็นก้อน •
กรุ๊ปโอ มีความเสี่ยงที่จะมีลิ่มเลือด หรือ เลือดจับตัวเป็นก้อนได้น้อยกว่าเลือดกรุ๊ปเอ บี และเอบี โดยที่เลือดกรุ๊ปเอบีมีโอกาสเสี่ยงที่จะมีลิ่มเลือดมากกว่ากรุ๊ปอื่นๆ ถึง 20%

 

• มะเร็งกระเพาะอาหาร •
กรุ๊ปโอ มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารน้อยกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น และมีความเป็นไปได้ว่ากรุ๊ปเอ มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากที่สุดในบรรดาทุกกรุ๊ปเลือด แต่ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าทำไม

***ไม่เคยรู้มาก่อน !! "กรุ๊ปเลือด" สามารถบอกความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายได้ อ่านแล้วรีบเช็คตัวเองด่วนๆ !?

 

• แผลในกระเพาะอาหาร •
เคยสังเกตคนรอบตัวไหมว่า คนกรุ๊ปโอเป็นโรคกระเพาะอาหารมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่นๆ ในขณะที่กรุ๊ปเอ และเอบี มีโอกาสที่จะเป็นแผลในกระเพาะอาหารน้อยกว่ากรุ๊ปอื่นๆ แม้ว่าเหตุผลที่พบว่ากรุ๊ปโอมีแผลในกระเพาะอาหารมากกว่ากรุ๊ปอื่นจะยังไม่ชัดเจน แต่มีความเป็นไปได้ว่า อยู่ที่ความแตกต่างของระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อของแต่ละกรุ๊ปเลือด

 

• โรคหัวใจ •
จากงานวิจัยของคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เลือดกรุ๊ปโอ มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยกว่ากรุ๊ปอื่นๆ ถึง 23% ส่วนกรุ๊ปเลือดที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือกรุ๊ปเอบี และ บี แต่ยังไม่สามารถอธิบายเหตุผลอย่างละเอียดได้ว่าเพราะอะไร 

 

• มะเร็งตับอ่อน •
เป็นอีกครั้งที่คนเลือดกรุ๊ปโอโชคดีอีกแล้ว เพราะจากข้อมูลใน วารสารของสถาบันมะเร็งแห่งชาติของอเมริกา ระบุว่า กรุ๊ปโอมีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับอ่อนน้อยกว่ากรุ๊ปอื่นๆ ส่วนกรุ๊ปเอ มีความเสี่ยงราว 32% กรุ๊ปเอบี 51% และกรุ๊ปบีมีความเสี่ยงสูงที่สุดอยู่ที่ 72% อย่างไรก็ตามจากข้อมูลดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเป็นเพราะสาเหตุใดเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยที่ได้อ้างอิงมาข้างต้นนั้น ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมโดยละเอียดอีกครั้ง และถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนกรุ๊ปเลือดได้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตได้ โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนอาหารที่รับประทาน เน้นผักผลไม้ ลดแป้ง และน้ำตาล ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ ได้แล้วค่ะ

 

ขอบคุณที่มาจาก womenshealthmag , sanook , medicthai , trueplookpanya