- 15 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.attarote.com
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 30 – 40 ปีที่ผ่านมาในแวดวงหนังบู๊ของเมืองไทยน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก "เป้า ปรปักษ์" จากสตั๊นแมนก้าวเข้าสู่นักแสดงคิวบู๊ สู่ ผู้กำกับคิวบู๊ จนได้รับรางวัลตุ๊กตาทองในฐานะผู้กำกับคิวบู๊ยอดเยี่ยมถึงสามปีติดต่อกัน สร้างความบันเทิงให้คอหนังไทยแนวบู๊มาอย่างยาวนาน ในช่วงเวลาหลายสิบปี เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความนิยมของผู้ชมเริ่มเปลี่ยน นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนของหนังไทย
ชีวิตของเป้า ปรปักษ์ ก็ไม่ต่างกัน จากที่เคยโด่งดังชีวิตพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุดของชีวิตทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ซึ่งเขาก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนที่ชีวิตกำลังอยู่ในขาขึ้น โดยไม่ได้มองว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตในวันข้างหน้า ในวันที่ชีวิตตกลงสู่จุดต่ำสุด ไม่มีงาน ไม่มีเงินทอง ชื่อเสียง ต้องหักเหชีวิตจากผู้กำกับหนังเป็นพ่อค้าขายของมือสองที่คลองหลอด เพื่อหาเลี้ยงชีวิตวันต่อวัน ความไม่แน่นอนของชีวิตทำให้เขา เริ่มเข้าหาธรรมะ จากเส้นทางสายบู๊มุ่งสู่เส้นทางสายธรรม ได้ทบทวนช่วงชีวิตที่ผ่านมา
"เป้า ปรปักษ์" หรือ "วินัย ยืนยง" ดาราดังนักบู๊ ยอมรับว่า เคยใช้ชีวิตประมาทมีเงินเข้าเท่าไหร่ก็ใช้ไป เคยโด่งดังชีวิตพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุดของชีวิตทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ในวันที่ชีวิตตกลงสู่จุดต่ำสุด ไม่มีงาน ไม่มีเงินทอง ชื่อเสียง ต้องหักเหชีวิตจากผู้กำกับหนังเป็นพ่อค้าขายของมือสองที่คลองหลอด ตอนนี้มีรถเก่าๆ เป็นบ้าน อาศัยนอนในปั๊ม มองคนที่ยังอยู่ในวงการยาวนานว่าเป็นบุญของเค้า จากเมื่อก่อนจะมองว่า ทำไมเราเก่ง ไม่มีใครจ้างเราทำงาน
“ปี 50 เริ่มไปขายของริมคลองหลอด เพราะชีวิตตกต่ำจนไม่มีทางไปแล้ว เรื่องศักดิ์ศรีตุ๊กตาทอง เราก็คนธรรมดาคนหนึ่ง เรามาทำแบบนี้ไม่ได้อาย เงิน 20 บาทมีค่ามากสำหรับเราตอนนี้”
แม้ห่างหายจากวงการ แต่เวลาเข้ามาอยู่ในปั๊ม ก็มีแฟนคลับที่จำได้เข้ามาทักทาย ยังคงมาขอถ่ายรูปด้วย ทุกวันนี้เมื่อเงินหมดก็จะไปเร่ขายของบ้าง และเข้าวัดปฏิบัติธรรม ซึ่งเราเป็นผู้ชายห้าวๆ หมามองหน้ายังเตะหมา ซึ่งเลวมาก ตอนนี้ใช้ธรรมะบำบัด
ส่วนล่าสุด "วีระชัย รุ่งเรือง" ผกก.ละคร ซึ่งบอกว่ารับทราบเรื่องราวของ "เป้า ปรปักษ์" รู้สึกนับถือกับสิ่งที่ฟันฝ่ามา ได้ให้ เป้า มาช่วยในกองถ่าย ซึ่งเป้า บอกว่า ได้ช่วยในยามที่ตัวเองกำลังเลือดตากระเด็น ก็จะพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ที่สุด
