- 17 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.attarote.com
หลายคนคงจะจำอดีตพระเอกหนุ่มชื่อดัง “สุริยา ชินพันธุ์” ที่ได้หายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไปนาน เพราะความลำบากที่ถูกศาลสั่งฟ้องให้ล้มละลายเมื่อหลายสิบปีก่อน เคยท้อจนคิดฆ่าตัวตาย สุดท้ายต้องขับแท็กซี่-ทำร้านอาหาร และเร่ขายรองเท้ามือสองตามตลาดนัดทั่วไป เพื่อเลี้ยงชีพและรักษาตัวเองจากโรคตับแข็งระยะที่ 2 เจ้าตัวกล่าวว่า
“ขายมาตั้งนานแล้วครับ เพราะว่าตอนนั้นอาจจะช่วงวิกฤตที่เศรษฐกิจไม่ดี แล้วอาก็ไม่ได้ทำวงดนตรี ละครก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี ก็เลยปรึกษากับแฟน ไปขายรองเท้า เสื้อผ้ามือ 2 ดีกว่าก็เลยทำอยู่หลายปีเหมือนกันครับ (ถือว่าเป็นจุดหักเหของชีวิต)ครับ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง เสี้ยวหนึ่งของชีวิต ก็เปลี่ยนแปลงกันไปครับ แต่ว่าอาก็ทำทุกอย่างที่เป็นอาชีพสุจริต ถามว่าอายไหม อายทำไมเราทำงานสุจริต ทำมาค้าขาย เราทำมาหากินเนอะ รายได้ไม่พอก็ต้องพอครับ แต่ถามว่าพอเหลือเก็บไหม ไม่พอหรอกครับ เพราะว่าตอนนี้อาก็ผ่อนบ้านอยู่ เพิ่งจะมีบ้านกับเขา มีลูกสาวมาดาวให้ ตอนหลังก็ผ่อนเองให้ลูกสาวไปดูแลคุณแม่ เพราะว่าคุณแม่เขาอยู่คนละที่กัน”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าถูกฟ้องล้มละลาย สุริยากล่าวว่า “คดีฟ้องล้มละลายก็มีครับตอนนั้น คือทำวงดนตรีลูกทุ่งแล้วก็เดินสาย ขายทุน ไปเจอช่วงเคอร์ฟิวบ้าง น้ำมันแพงบ้าง แล้วตอนนั้นก็พอดีมีละคร คนดูก็ไม่มาดู เราไปปิดวิกคนดูก็ไม่ออกมาดู เปลี่ยนเป็นยุคทีวี เขาไปดูทีวีกันเราก็ขาดทุนมาเรื่อย ก็ไปกู้เงินเขามา หมื่นหนึ่ง ไม่พอก็ไปเอาอีก สองหมื่น สองหมื่นห้า สามหมื่น ก็จากงานสองสามหมื่นทบดอกทบต้น 2-3 ปี กลายเป็น 12-13 ล้านบาท เพื่อนๆ ก็ค่อนข้างจะมีน้อย แต่เพื่อนๆในกองถ่ายในวงการมีทุกคนรักทุกคนเยอะแยะครับ แต่เพื่อนจริงๆมีไม่กี่คน ผมชอบอยู่แบบเงียบๆ คือเลิกงานกองถ่ายปั๊บจะกลับบ้าน ไม่ไปโน้นนี่นั่น ไม่ไปต่อ”
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าโบตั๋น(ภรรยาปิ๊ด บอดี้สแลม) ลูกสาวได้ดูแลไหม เขากล่าวว่า “น้องโบตั๋นก็เราเป็นพ่อเนอะ ต้องเข้าใจเขา เขาแต่งงานไปแล้วเขาก็มีครอบครัว เราก็ต้องเข้าใจว่าลูกสาวต้องไปเป็นแม่บ้าน หรือว่าต้องไปดูทัวร์คอนเสิร์ตต้องดูแลแฟนเขา แต่บางครั้งเราอายุมากความคิดระหว่างคนรุ่นลูกกับรุ่นพ่อมันจะผิดกัน อายุมากแล้วมันคล้ายๆไม้ใกล้ฝั่ง โอ้ยเมื่อไหร่ลูกจะมาน้อ เมื่อไหร่จะโทรมา เจอกันเคยหอมแก้มทุกครั้ง เขาก็บอกหนูก็ยุ่งอยู่ จะเจอก็วันเกิด ปีใหม่ สงกรานต์ ประมาณนั้น ก็ใช้โทรศัพท์เอา ช่วงนี้ก็ห่างไปนิดนึง อาจจะยุ่งงานครับ ค่าใช้จ่ายลูกสาวก็บอกจะให้ผม แต่ผมบอกว่าไม่ต้องหรอก พอยังดิ้นรน พ่อเป็นผู้ชาย พ่อหากินได้ ไปดูแลคุณแม่ก็แล้วกัน คุณแม่เขาก็ต้องมีค่าเช่าแฟลตค่ากิน แล้วตอนนี้เห็นบอกว่าคุณแม่เขาไม่สบายเป็นความดัน เบาหวาน ตอนนี้เป็นกรดไหลย้อน อันนี้มันธรรมดา เรื่องรับประทานอาหาร การพักผ่อน แต่ว่าไวรัสตับอักเสบซีอันนี้ผมก็ไม่ทราบว่ามันมายังไง ผมก็ไม่ได้ไปซุกซน ไม่ได้ไปเที่ยวไหน บุหรี่เหล้าก็เลิก ตอนนี้ก็หันหน้าเข้าวัด”
พอถามต่อว่าเมื่อก่อนไม่มีเงินเก็บเลย เขาตอบว่า “เรื่องเงินเก็บไม่ต้องไปพูดถึง เล่นหนังเมื่อก่อนได้เรื่องละ 2,000 จักรๆ วงศ์ๆ หักภาษีไปก็เหลืออยู่พันเก้าร้อยกว่าบาท ค่าน้ำมันก็ไม่มี ต้องไปถ่ายถึงสระบุรี เขาขาด ถ้ำจอมพล นิยายพื้นบ้านมันก็ลำบาก เมื่อก่อนเคยท้อ คิดจะทำลายตัวเองเหมือนกัน หลายปีช่วงที่เคยเป็นอัมพาตร้องเพลงไม่ได้ คอเบี้ยวระบบประสาทมันเครียด คิดหนักเลยคิดจะปลิดชีวิตตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นแล้ว กว่าเราจะเกิดขึ้นมาได้ คุณแม่เราลำบากอุ้มท้อง อดเปรี้ยว อดหวานตั้ง 9 เดือนถึงเกิดมาเป็นคนได้ (อยากกลับมาทำงานในวงการอีกครั้ง)อยากกลับมาครับ ชอบร้องเพลง ตอนนี้อยากแสดง อยากอยู่เบื้องหลัง แสดงก็อะไรก็ได้ ถ้าอายุเรามาก ก็อยู่เบื้อหลังเราชอบทำงาน”
อย่างไรก็ตามเมื่อปี 60 หลังจากห่างหายไปนาน "สุริยา ชินพันธ์" ก็ได้กลับมาโชว์เสียงเพราะๆ ให้เราได้ยินอีกครั้งกับเพลง ลูกทุ่งดารา ในเวทีรายการ "ชุมทางดาวทอง" พร้อมตัวศิลปินเองยังได้พูดคุยและเล่าประวัติความเป็นมาในการก่อตั้งวงดนตรีลูกทุ่งดาราที่ได้เคยดังเป็นพลุแตกในสมัยก่อนอีกด้วย