- 29 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กำลังเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับละครบุพเพสันนิวาส ซึ่งในละครได้ทำให้ภาพของฟอลคอน เป็นภาพของฝรั่งฉ้อฉล ทำอะไรก็นึกถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว หากแต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว ฟอลคอนเองก็ยังมีด้านดี คือเขาเองเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของสยาม รักษาเกียรติแห่งสถาบัน และถึงขั้นที่ลักลอบแก้ไขสัญญา จนฝรั่งเศสไม่สามารถมาอ้างศาสนา เพื่อทำการยึดสยามได้
โดยเฟซบุ๊ก Pat Hemasuk ได้พูดถึงฉากที่คณะทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อถวายพระราชสาสน์ ซึ่งในฉากนั้น ฟอลคอนเองได้พยายามยกมือให้ราชทูต ยกพานถวายพระราชสาสน์ให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชต้องก้มตัวลงมา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ฟอลคอนเองนั้นพยายามรักษาพระเกียรติยศของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอย่างมากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ อีกทั้งฟอลคอนเอง ยังเป็นฝรั่งที่ก้มกราบตามธรรมเนียมในราชสำนักสยามด้วย
นอกจากนี้ในเฟซบุ๊ก Pronpol Paul Rakboonyuang ได้ออกมาเผยอีกแง่มุมประวัติศาสตร์ ที่ละครไม่ได้บอกไว้ว่า ฟอลคอนได้เป็นผู้แก้ไขร่างสนธิสัญญาการเผยแพร่ศาสนา โดยมีการเติมข้อความเพื่อป้องกันการรุกล้ำของฝรั่งเศสในสยามอย่างชัดเจน และให้วัตถุประสงค์ของการเข้ามาของฝรั่งเศสนั้น ก็เพื่อการเผยแพร่ศาสนาจริงๆ
นอกจากนี้ตอนที่ท่านทูตอาแล็กซ็องดร์ อัศวินแห่งโชมองต์ ยังอยู่ ฟอลคอนก็แกล้งทำเป็นเห็นดีเห็นงามกับฝรั่งเศส แต่เมื่อท่านทูตกลับไป ฟอลคอนก็เอาร่างหนังสือที่ตัวเองแก้แล้วออกมาให้เหล่ามิชชันนารีเซ็น โดยที่ในหนังสือ ประวัติมิสซังกรุงสยาม โดยบาทหลวง อาเดรียง โลเน คณะมิสซังต่างประเทศกรุงปารีส ได้บันทึกเหตุการณ์ช่วง ค.ศ. 1685 กล่าวว่า "ในที่สุดฟอลคอน ก็เสนอตัวบทของสนธิสัญญา แต่เสนอมาอย่างไรท่านทราบไหม เขาคอยให้เดอ โซมองต์ ลงเรือ..เขาจึงส่งสนธิสัญญามา..."
ส่วนข้อความที่ฟอลคอนแก้นั้น คือ
"โดยมีเงื่อนไขว่า พวกมิชชันนารีต้องเพียงเทศน์สอนบทบัญญัติของพระเจ้าเท่านั้น จะเพิ่มข้อเปลี่ยนใหม่ที่ทำให้ประชาชนต่อต้านรัฐบาลและบทบัญญัติของประเทศ โดยอ้างเหตุใด ๆ ไม่ได้ ในกรณีที่มิชชันนารีผู้หนึ่งผู้ใดประพฤติฝ่าฝืนข้อนี้ พระเจ้าแผ่นดินถือว่า เอกสิทธิข้อนี้เป็นโมฆะ มิชชันนารีผู้นั้นต้องถูกเนรเทศกลับฝรั่งเศส จะกลับมากรุงสยามไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องโทษประหาร"
ข้อสอง อนุญาตให้สอนวิชาความรู้ที่ไม่เกี่ยวกับการปกครองและกฎหมายของประเทศ แต่ข้อนี้มีข้อแม้และบทลงโทษเดียวกับข้อหนึ่ง... ข้อห้าให้ตั้งขุนนางผู้หนึ่งเป็นผู้ชำระเรื่องคดีของพวกคริสตัง ขุนนางนั้นจักต้องขอความเห็นจากผู้พิพากษาคนหนึ่งของพระเจ้าแผ่นดิน (ข้อนี้ ทำขึ้นเพื่อยืนยันว่า การเปลี่ยนศาสนาไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติ คริสตชนสยามจะยังอยู่ใต้กฎหมายและปกครองของพระเจ้ากรุงสยาม) "
นอกจากนี้ คุณพ่อเดอ ลีออน คณะมิชชันนารี ยังได้บันทึกเอาไว้ว่า "ฟอลคอนมอบบันทึกช่วยจำ เพื่อขอพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ให้พระราชทานเรือหลายลำกับคน 60-70 คน ที่เฉลียวฉลาด สุจริตอย่างแท้จริง มีทุนทรัพย์พอดำรงชีพด้วยตัวเอง และเข้าทำการรับใช้พระเจ้ากรุงสยามโดยไม่มีผลประโยชน์แต่ประการใด ฟอลคอนขอสิ่งเหล่านี้ บันทึกดังกล่าวยืนยันว่า เพื่อช่วยตั้งคริสตศาสนาขึ้นในพระราชอาณาจักร"
"....คนของเราที่เป็นคนซื่อ ถูกเขาหลอก ฟอลคอนคนเดียวมีชัยชนะ"
ซึ่งบทสุดท้ายของชีวิตฟอลคอนต้องจบลงอย่างโศกเศร้า เมื่อพระเพทราชามีคำสั่งให้จับเจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน เสนาบดีคนสนิทใกล้ชิดกับพระนารายณ์ และเป็นที่โปรดปรานเสน่หาอย่างยิ่งไปประหารชีวิต ก่อนที่พระเพทราชาจะขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์คนที่ 28 ของกรุงศีอยุธยา
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เปิดประวัติ... "พระเพทราชา" ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง อีกหนึ่งตัวละครสำคัญในบุพเพสันนิวาส ผู้มอบความตายให้ "ฟอลคอน"
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Pat Hemasuk , Pronpol Paul Rakboonyuang
ขอบคุณ : Broadcast Thai Television ,Ch3Thailand
ขอบคุณ : รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3