"หมิว สิริลภัส" น้ำตาคลอเปิดใจจบเส้นทางรัก "เป้ วงมายด์"

กว่าจะจับมือฝ่ามรสุมจากข่าวฉาวถูกครหาเป็นมือที่สามฉกนักร้องเสียงดี เป้ วงมายด์  หรือ บดินทร์ เจริญราษฎร์  จากอดีตแฟนสาวนอกวงการที่ออกมาแฉเมื่อหลายปีก่อน นางร้ายสาว หมิว  สิริลภัส ปล่อยโฮต่อหน้าสื่อในงานไหว้ครูที่โรงถ่ายละครลาดหลุมแก้ว  ประกาศจบรัก 2 ปี หลังถูกฝ่ายชายบอกเลิกมานาน 7 เดือน 
 

โดยนางร้ายสาวรับว่าคาดหวังกับรักครั้งนี้เพราะจับมือฝ่าดราม่ามาตลอด  วันที่ฝ่ายชายมีปัญหาตนเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปตบไหล่ และคอยอยู่ข้างๆ ยอมรับเสียใจที่รักไปไม่ถึงฝั่ง

 

นอกจากนี้หมิวเผยต่อสิ่งที่เป้บอกในวันเลิกก็แปลความหมายง่ายๆ ว่า หมดรัก  และไปต่อไม่ได้ ยืนยันไร้มือที่สามเพราะเป็นปัญหาของคน 2 คน ตอนนี้ไม่พร้อมเปิดใจให้ใคร ขอดูแลหัวใจตัวเองก่อน  ที่ผ่านมารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น  แต่ยังไม่เต็มร้อย

 

ซึ่งนักแสดงสาวได้เปิดใจว่า "ช่วงนี้ก็ดีขึ้น ก็ได้เพื่อน ได้งาน ถ้าใครรู้ว่าว่างก็จะป้อนงานมาให้ แล้วก็เรียนค่ะ เฮิร์ทมั้ยอ่ะหรอคะ อืมม เรียกว่าล้มเรียกดีกว่าค่ะ ก็เหมือนว่าเรารู้จักกันมานานสัก 6-7 ปีได้แล้วมั้ง คือก็นั่งคุยกันว่ามันเริ่มไม่มีความสุขแล้ว คือหมิวเป็นคนพูด ปกติตอนเรามีปัญหากัน เราไม่เคยทะเลาะเลย จะคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า พอมาถึงครั้งนี้ก็ได้นั่งคุยกันว่าจะเอายังไงดี เราก็ถามเค้าว่าจะไปต่อหรือจะพอแค่นี้ เค้าก็เลยบอกว่า ขอพอแล้วได้มั้ย เค้าหมดรักเราแล้ว 
 

ปกติทุกครั้งที่มันมีปัญหา ก็จะพยายามแก้ปัญหากันมาตลอด ตอนที่ได้ยินเค้าพูดแบบนั้นมาความรู้สึกแรกมันเหมือนแฟลชแบ็ค เพราะวันที่เค้ามานั่งจับมือขอให้เรากลับมาได้มั้ย มันเป็นที่ที่เดียวกันกับวันที่เค้าเข้ามาบอกว่าเค้าขอโทษ เค้าหมดแล้ว ไม่ไหวแล้ว 

 

ตอนนี้ก็โอเคค่ะ คือพี่ต้องเคยรักใครมากๆ แล้วพร้อมที่จะสนับสนุนเค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานหรือจิตใจอะไรหลายๆ อย่าง 

 

ถ้าถามว่าเป็นเพราะความเจ้าชู้ของเค้ามั้ย อันนี้ขอบอกเลยนะคะว่าไม่ใช่ แต่ด้วยภาพลักษณ์ของเค้าที่ดูเหมือนผู้ชายเจ้าชู้ เลยอยากบอกว่าเวลาที่เค้ามีใครหรือกำลังดูแลใครอยู่เค้าไม่ใช่คนเจ้าชู้เลย หมิวกล้ายืนยัน

 

 ถ้าถามว่ามีมือที่สามมั้ยอันนี้หมิวก็ไม่ทราบ แล้วก็ไม่ได้ไปตามสืบ เพราะตลอกเวลาที่คบกับเราไว้ใจกันและกันมาโดยตลอด

 

มันก็บอกไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงเกิดปัญหานี้ขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่ามันมีปัญหาหลายๆ เรื่องที่มันยังเคลียร์กันไม่จบแล้วกลายเป็นว่าเรามาเคลียร์กันด้วยเหตุผลมากเกินไป มันก็ความผิดของหมิวส่วนหนึ่งที่เวลาที่มีปัญหาปุ๊บ หมิวก็จะกันตัวเองออกมาอยู่คนเดียว มันก็ทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าไม่มีตัวตนในชีวิตหมิวแล้ว มันก็เลยเจ็บกันทั้งคู่ พอมานั่งคุยกันเค้าก็บอกว่าเค้าก็รักหมิวนะ แต่ตอนนี้เค้าขอรักตัวเองบ้าง 

 

เอาจริงๆ เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่ว่ามันมีปัยหาส่วนตัวนิดหน่อยที่เราเคยตกลงกันไว้แล้วทำให้ไม่ได้ กับรักครั้งนี้ยอมรับว่าเสียใจ  เสียใจที่สู้กันมาเยอะ ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ (เสียงสั่น) แต่พอสุดท้ายเราไม่ได้เป็นคนที่จับมือเค้าไปส่งเส้นชัย แต่เราก็รู็สึกดีที่เราอยู้กับเค้ามาตลอดทาง เพียงแต่ว่าวันที่เค้าถึงเส้นชัยแล้วเราไม่ได้เป็นคนไปยืนฉลองความสำเร็จกับเค้าอยู่ตรงนั้น แค่นั้นเอง"

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ไนน์เอ็นเตอร์เทน