ปอยฝ้าย มาลัยพร เคยติดเหล้าหนัก สุขภาพแย่ จนวูบคาเวที

เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักอดีตตลกและนักร้องหมอลำชื่อดัง คณะ "เสียงอิสาน" อย่าง  "ปอยฝ้าย มาลัยพร" แต่ใครจะรู้ว่ากว่าเขาจะมีชื่อเสียงขนาดนี้ ครั้งนึงชีวิตเกือบพัง เพราะติดเหล้าหนักจนน็อกคาเวที  ทำให้อ้วกเป็นเลือด สุดท้ายต้องล่ามโซ่หักดิบเพื่อหยุดเหล้า 

เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักอดีตตลกและนักร้องหมอลำชื่อดัง คณะ "เสียงอิสาน" อย่าง  "ปอยฝ้าย มาลัยพร" แต่ใครจะรู้ว่ากว่าเขาจะมีชื่อเสียงขนาดนี้ ครั้งนึงชีวิตเกือบพัง เพราะติดเหล้าหนักจนน็อกคาเวที  ทำให้อ้วกเป็นเลือด สุดท้ายต้องล่ามโซ่หักดิบเพื่อหยุดเหล้า

 

ปอยฝ้าย

 

โดย "ปอยฝ้าย มาลัยพร" ได้เปิดใจถึงชีวิตอันเลวร้าย ผ่านรายการดังว่า "(หลายคนติดภาพว่าพี่เป็นกะเทย) ไม่ซีเรียส เพราะมันคือการแสดง บางครั้งก็สังเกตตัวเองว่าเป็นหรือเปล่า นอนกับผู้ชายหล่อๆเราก็ไม่มีความรู้สึกที่ว่าจะไปจับอะไรเขา เห็นผู้หญิงก็ยังชอบผู้หญิงอยู่ (แล้วอาการติดเหล้า จริงหรือไม่จริง) ติดจริงครับ ตอนร้องเพลง มันต้องถอน มันทำให้มีชื่อเสียง และจะทำให้ไม่มีชื่อ เพราะติดเหล้าจริง แต่ตอนนั้นยังไม่ติด แต่ก็กินนะ กินมาประมาณ 20 ปี ติดจริงๆประมาณ 7 ปี มันหยุดไม่ได้ หยุดมันจะเก้อๆ กังๆ มือสั่น ทำอะไรก็ไม่มั่นใจ คือตื่นมาต้องถอน ตื่นมาต้องกินเลย คิดถึงเหล้าเป็นอันดับแรก"
 

ปอยฝ้าย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุเท่าไหร่ "หนุ่มปอยฝ้าย" กล่าวว่า  "ประมาณอายุ 20 ปี ถามว่าเลิกได้หรือยัง ตอนนี้เป็นผู้ป่วยอยู่ ทุกวันนี้ต้องไปหาหมอ มียากิน คุณหมอเขาบอกว่าถึงแม้เลิกได้ก็อย่าประมาท ต้องระวังตัวเองตลอดเวลา มีผลข้างเคียงกับร่างกายเต็มๆเลย ตับอักเสบ แล้วสมองเบลอ พูดช้า รับมุกเล่นตลกอะไรก็เบลอไปหมด (มีคนไปดูคอนเสิร์ตพี่เขาบอก มีบางงานที่พี่ทำงานไม่ได้เลย) ผมภูมิใจตัวเองมาก ตายในหน้าที่ ตายหน้าเวที คือผมร้องเพลงท่อนสุดท้ายล้มลงเลย ทุกคนตบมือคิดว่าเล่นเหมือน นักดนตรีรีบลงมาอุ้มผมกลับหลังเวที ตอนนั้นรู้ว่าตัวเองไม่ไหวแล้วมันวูบ"

 

ปอยฝ้าย

 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าพี่เก็บพ้อยท์โรงพยาบาลหมดทุกโรงพยาบาลที่พี่ไปเล่นคอนเสิร์ตจริงเหรอ "หนุ่มปอยฝ้าย" กล่าวว่า  "อย่าว่าแต่โรงพยาบาล ตามอนามัยตามตำบนก็ต้องไปเข้ากลูโคส ร่างกายมันไม่มีน้ำตาล คือไปให้น้ำเกลือตามโรงพยาบาล อนามัยทั้งหมดประมาณ 40-50 ที่เห็นจะได้ (เห็นว่าดื่มหนักจนตาอักเสบ) ตาเหลือง เหลืองทั้งตัว ตอนนั้นถ้าไม่ได้โรงพยาบาลที่ดีหน่อยคงไม่รอด บางครั้งถึงกับอ้วกเป็นเลือด ผมไปคอนเสิร์ตที่ลาวก็ไปน็อกกลางวัน เพราะหาซื้อเหล้าที่เราเคยกินไม่ได้ เหล้าขาวเราต้มผมก็เอามาดื่มทีนี้อ้วกออกมาเป็นเลือด ช่วงที่ตาเหลือง พักฟื้นประมาณ 4-5 เดือน ก็กลับมาดื่มอีก เริ่มจากคำว่านิดหน่อยไม่เป็นไร (ไม่กลัวตายเลยเหรอ) ก็กลัวนะถ้าถึงเวลา แต่มันยังไงไม่รู้เพราะว่าด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ ด้วยสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ ด้วยสังคมที่เราอยู่งานที่เราทำ"

 

ปอยฝ้าย

 

ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเลิกได้จริง ๆ เกี่ยวกับอาการป่วยหรือว่าเกี่ยวกับภรรยา "หนุ่มปอยฝ้าย" กล่าวว่า  "เกี่ยวทั้งสองอย่าง ทั้งหนี้สิน ทุกอย่างรวมกัน คือพอเราดื่มมันเป็นปัญหาเดิม ๆ คือรู้สึกว่างานด่วนมันจะเข้ามาทันที เราต้องพร้อมเสมอ (แล้วประเด็นสำคัญเลยถ้าพี่ไม่เลิกภรรยาจะเลิกกับพี่) ใช่ครับ ผมคิดว่าถ้าภรรยาเลิกเรายิ่งจะต้องกินหนัก สุขภาพจิตอีก หลายๆอย่างมันจะตามมา เขาบอกว่าถ้าคุณไม่เปลี่ยนฉันไม่อยู่ด้วยแล้วนะ แต่เขาก็ดีนะ พยายามเข้าใจ เขาเป็นผู้หญิงต้องไปซื้อเหล้าให้แฟน (พี่เคยขู่ถ้าไม่ไปซื้อเหล้าจะเอามีดปาดคอตัวเอง) เคยครับ คือตอนนั้นเป็นช่วงเราเมา แต่มันยังสลึมสลือ แบบอารมณ์คนเมาถ้าดีใจมันจะมันก็จะดีหลายเท่า ถ้าโกรธมันก็โกรธหลายเท่า"

 

ปอยฝ้าย

 

ทั้งนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าพอตัดสินใจจะเลิกมันยากมั้ย สำหรับคนที่ติดหนัก "หนุ่มปอยฝ้าย" กล่าวว่า "ยากนะครับ ขั้นแรกก็ต้องถามใจตัวเองก่อน มองลึก ๆ หาข้อดีของตัวเอง เราก็ทำมาเยอะ เราจะมาตายเพราะเอาน้ำเข้าปากเหรอ ต้องหาทางออกให้ได้ ก็ค้นหาในเว็บที่บำบัดเลยตัดสินใจเลิกตอนนี้เลิกมาได้เกือบ 2 ปีแล้วครับ (ขั้นตอนในการเลิกเห็นว่าไปเลิกที่วัด ล่ามโซ่ด้วย) ครับ คือหักดิบ เป็นสถานที่เลิกยาเสพติดหนักๆเลย อันนี้ผมสมัครใจไปเอง ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้ อย่างน้อยสิ่งที่เราได้ก็คือดูโทษของมัน พอไปถึงที่วัดก็จะเป็นห้องสี่เหลี่ยม เป็นกรงแบบใส่โซ่เลย เห็นครั้งแรกก็ตกใจอยู่ แต่ก็คิดในใจเอาวะ ก็ทำทุกอย่างเหมือนคนอื่น เขามีหมอนให้ แต่ก็มีคนนอนก่อน นอนหลังอีก เหมือนในหนังเลย เหมือนนักโทษ ห้องน้ำก็นั่งเรียงกัน รสชาติเหมือนในห้องขังเลยที่ต้องล่ามโซ่ก็เพราะต้องทำเหมือนเพื่อน ตอนเย็นก็มานั่งเช็ดโซ่ ก็มีคิดว่าตัวเองมาทำอะไร นี่มาเลิกเหล้านะ"

 

ปอยฝ้าย

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าเขาบอกเหตุผลเราไหม ทำไมต้องล่ามโซ่ หรือว่าเราคุ้มคลั่ง "หนุ่มปอยฝ้าย" กล่าวว่า 


"ไม่ครับ เราต้องทำตามระเบียบในห้องนั้น ต้องทำเหมือนเพื่อน คนที่ติดยาหนัก ๆ เขาก็เอาไปแยกเดี่ยวก่อน ช่วงที่ผมไปเลิกเหล้ามีแค่ 3 คน นอกนั้นก็เป็นยาเสพติด ถามว่าคุ้มคลั่งมั้ย ผมว่าเหล้านี่ไม่แพ้ยาเสพติดชนิดอื่นนะครับ เพราะทรมานมาก ผมอยู่ที่นั่นเดือนนึง ที่ทรมานก็ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ตอนนั้นเหล้าเราลืมง่ายเพราะเราไม่เคยอยู่ในสถานที่อย่างนั้น (มันเหมือนในหนังมั้ยที่เราจะคุ้มคลั่ง) ผมไม่ถึงขนาดนั้น ผมแค่อ้วก ไม่ถึงขั้นช็อกหรือชักกระตุก พอกลับบ้านมานี่อ้วนเลย เลิกสัก 4-5 เดือนก็เริ่มกลับมากินทีละนิดหน่อย เริ่มจากทีละกระป๋องแล้วกลับมาติดอีกรอบ ครั้งนี้ต้องเข้าโรงพยาบาล เข้าสถานบำบัดอย่างเดียว"

 

ปอยฝ้าย

 

สุดท้ายผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าอาการเป็นยังไง "หนุ่มปอยฝ้าย" กล่าวว่า "ผมเป็นคนป่วยนอก เราไม่ถึงต้องไปนอนก็มียา ฉีดยา ไปครั้งแรกฉีดยาบำรุง 7 วัน แล้วก็มียากิน ช่วยคลายเครียด (แล้วพี่มีลูกไหม) ไม่มีครับ มันเกี่ยวกับการติดเหล้าโดยตรง ร่างกายไม่สมบูรณ์น้ำเชื้ออ่อน (มีคนบอกว่าเซ็กเสื่อมหรือเปล่า)ไม่ค่อยเสื่อมนะ แต่น้ำเชื้อไม่แข็งแรงแรง ส่วนภรรยาอยากมีนะ แต่ตอนนี้เขาไม่ซีเรียสแล้ว ก็ช่วยดูแลกันไป2คน"

 

ปอยฝ้าย