แอน ทองประสม ปล่อยโฮร่ำไห้แทบขาดใจ หลังสูญเสียพี่ชาย เติม ชนินทร กะทันหัน พร้อมเผยด้วยเสียงสั่นเครือขณะจับมือรดน้ำ

วงการบันเทิงสูญเสีย เติม ชนินทร ประเสริฐประศาสน์ อายุ 49 ปี ผู้กำกับละครทางช่อง 3 ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใจกลาง กทม.ที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 2 ของตัวอาคาร ภายในห้องพบร่าง นายชนินทร ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตอยู่บนวีลแชร์ ตรวจสอบภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือร่องรอยการรื้อค้น

จากการสอบสวนผู้ใกล้ชิดทราบว่า สาเหตุที่ผู้ตายก่อเหตุเนื่องจากเครียดเรื่องปัญหาสุขภาพ ซึ่งจะได้สอบปากคำญาติและผู้ที่รู้จักคุ้นเคยอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ชนินทร ประเสริฐประศาสน์ หรือ เติม เป็นผู้กำกับละครดังหลายเรื่อง อาทิ บริษัทบำบัดแค้น, จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า, เลื่อมพรายรัก, แรงเงา ภาคแรก (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และ เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ เป็นนักแสดงนำ), เพลิงบุญ และเป็นผู้เขียนบทละคร อาทิ ท่านชายปวรรุจ ละครในชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ, สะใภ้จ้าว, แรงเงา 2 ซึ่งทั้งเขียนบทโทรทัศน์และกำกับการแสดง

 

และก่อนหน้านี้ แอน ทองประสม ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความอาลัยว่า "ได้คุยกับพี่เติมเมื่อสัปดาห์ก่อน คุยกันได้20นาที แอนรู้สึกได้ว่า พี่เติมตอบช้าๆ เลยถามไปว่า ระหว่างคุยกัน พี่เติมรู้สึกเหนื่อยไม๊ พี่เติมตอบกลับมาว่า “พี่เหนื่อยมากแอน” แอนเลย พูดกลับไปว่า”งั้นพี่เติมไปพักนะพักให้สบายนะคะ แล้วคุยกันใหม่”แอนไม่รู้เลยว่านั้นคือประโยคสุดท้ายที่เราสองคนจะได้คุยกัน....หลับให้สบายนะคะพี่ชาย
แอนรักพี่นะคะ #บริษัทบำบัดแค้น"

จากนั้นล่าสุด แอน ทองประสม ได้มาร่วมงานรดน้ำศพ เติม ชนินทร  พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า “แอนรู้จักพี่เติมครั้งแรกที่ทำ บริษัทบำบัดแค้น เป็นการเจอกันครั้งแรก ได้ทำงานด้วยกันครั้งแรก สนิทกันเร็วมาก พี่เติมเป็นคนตั้งใจและจริงจัง เป็นผู้กำกับที่เก่งมาก และแอนเชื่อฟังทุกอย่างที่พี่เติมบอก คือเป็นการทำงานที่มีความสุขมาก แปลกมากเป็นบรรยากาศที่เหมือนไม่ได้ไปทำงาน และทุกคนในทีมก็สนิทกันแทบทุกคน หลังจากละครจบก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อ หลังจากนั้นแอนก็นับถือพี่เติมเป็นพี่ชาย มีอะไรแอนก็ปรึกษาเรื่องงานบ้าง แต่แอนเป็นผู้จัดก็แลกเปลี่ยน ติดต่อกันมาตลอด"

"แอนไม่ค่อยได้เจอพี่เติมมานานมาก ตั้งแต่พี่เติมทำแรงเงา ตั้งแต่ช่วงนั้นแกก็จะยุ่งมาก บวกกับเริ่มป่วยไปโรงพยาบาล จังหวะที่เรานัดมาเจอ แกก็บอกยังยุ่งอยู่ ถ้าพี่พร้อมพี่จะมาบอก หลังจากนั้นก็เป็นการโทร.คุยกันที่อพาร์ตเมนต์แก แอนก็จะถามสารทุกข์สุขดิบชวนเมาท์ ส่วนใหญ่เป็นการโทร.คุย"

"ที่ผ่านมาก็พอทราบปัญหาเรื่องสุขภาพของพี่เติม แต่แอนไม่ได้ทราบจากพี่เติมโดยตรง ทราบจากเพื่อนในวงการที่ทำบท เวลาคุยกันแกจะไม่เอาปัญหาแกมาเล่า แกจะคุยสนุกคุยเรื่องงานให้มีความสุข เราก็จะคุยโต้ตอบแกเหมือนว่าแกไม่เป็นอะไร มันก็เลยไม่มีอะไรมาเล่าให้ฟัง แต่เรารู้อยู่แล้วว่าแกเป็นอะไรช่วงที่คุยกับแก รู้หมดว่าแกเป็นระดับไหน"

ต่อมาได้ถามต่อว่าพอเราทราบข่าว เรารู้สึกยังไงบ้าง สาวแอน กล่าวว่า "ชาไปเลย แบบห๊ะ...เพราะว่าแอนเพิ่งคุยกับแกเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แอนขับรถอยู่ รู้สึกว่าวันนี้คิดถึงพี่เติมจังเลย มีช่วงหนึ่งพยายามที่จะโทร.แล้ว แต่มีพี่เขียนบทท่านหนึ่งบอกว่าอย่าเพิ่งโทร.เพราะว่าแกอยู่ในช่วงย้ายโรงพยาบาลอยู่ ให้แกพักฟื้นก่อน อยู่ๆ ก็นึกถึงก็กดมือถือ เจอผู้หญิงรับ แอนก็คิดว่าคงเป็นคนที่ดูแล รู้สึกว่าจะเป็นพี่สาว เขาบอกให้โทร.เข้าเบอร์มือถือพี่เติมเลย แอนก็โทร.เข้ามือถือ"

"แกก็รับคุยกันปกติ คุยสักพักแอนจับน้ำเสียงได้ว่าพูดช้า ก็ถามว่าเหนื่อยเหรอ แกบอกว่าเวลาพูดมันเหนื่อย ต้องใช้กำลังในการตอบเรา แอนบอกว่าถ้างั้นหยุดไหม พี่เติมไปพักผ่อนก่อน สบายแล้วค่อยคุยกันใหม่ก็ได้ แกก็บอกเออๆ ถ้าอยากเมาท์ต่อ แกคงอยากต่อกับแอน แต่นี่แกยอมไปแบบง่ายๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร"

"เป็นประโยคสุดท้ายที่ได้คุยค่ะ มันก็แปลกมาก แกเป็นคนดี เป็นคนมีวิชา แล้วเป็นคนไม่อวดอะไรเลย แต่เราจะรู้ว่าแกเป็นคนที่เก่งมาก แกเป็นคนสนุกสนาน อยากให้แกสนุกกับชีวิตไป"

"จับแขน แต่พูดไม่ออก เข้าใจทุกอย่าง แอนอยากจับแขน เพราะว่าไม่ได้แตะตัวกันเลย ไม่รู้จะพูดอะไร เสียใจ(เสียงสั่น) ความรู้สึกเหมือนเสียพี่ชายที่เรานับถือ ก็จะอึ้งๆ นิดหนึ่ง กลัวแกเจ็บไหม มันเกิดแบบนี้ก็รู้สึกอื้ออึง (เคารพการตัดสินใจ?) แอนไม่ทราบเลย ยังอึ้งอยู่ ไม่รู้ว่าแกสะสมอะไรไว้ในใจหรือเปล่า"

"ที่ผ่านมาไม่มีสัญญาณว่าเขาจะตัดสินใจแบบนี้ แกเป็นคนเก็บตัว ทำบทอยู่กับบ้าน เราก็เห็นสัญญาณเก็บตัวแบบนี้ มาตั้งแต่รู้จักกันแรกๆ มันเป็นสัญญาณปกติ น้ำเสียงทุกอย่าง เป็นคนที่โมโนโทนมาก เป็นคนโทนเดียว จนเราไม่รู้ว่าอันนี้แย่หรือเปล่า จนพอเราคุยอันนี้เรารู้สึกได้ว่า ทำไมตอบช้า แอนมาชวนคุยทำให้เพลียไหม แกบอกว่าเพลียจริง เพราะว่าคุยมันต้องใช้กำลัง แอนก็หยุด"

“แกไม่สอนอะไรแบบตรงๆ แต่แกแค่ปลดรหัสคาแรคเตอร์ของนงไฉน ตัวละครที่แกรักมากในตอนนั้น แกอธิบายได้อย่าลึกซึ้ง เราสามารถเล่นได้โดยที่ไม่มีความสงสัยอะไรเลย เราอาจจะได้วิชามาโดยที่เราไม่รู้ตัว แอนเล่นให้แกเต็มที่เลย เล่นด้วยความรัก และดีใจกับแกเพราะผลงานที่ผ่านมาขอแกก็ประสบความสำเร็จ เพราะแกเป็นคนตั้งใจมากๆ อยากจะบอกว่าพี่เติมเป็นสุดยอดของผู้กำกับ พี่เติมเป็นสมบัติที่มีคุณค่าสำหรับประเทศเราค่ะ"