มาเลเซีย หันหน้าหนีสหรัฐฯ  "นาจิบ ราซัค" เตรียมเยือน จีน กระชับความสัมพันธ์ ครั้งใหม่

นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย กำลังมองหาการลงทุนของจีนในด้านสาธารณูปโภคและการผลิต ขณะที่ข้อตกลงต่างๆด้านกลาโหมก็อาจถูกหยิบยกมาพิจารณาระหว่างการเดินทางเยือนคราวนี้อีกด้วย

มีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีกำหนดเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์หน้า โดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค จะเดินทางไปเยือนจีนพร้อมกับเหล่าแกนนำรัฐบาลและนักธุรกิจอีกจำนวนหนึ่ง  ผู้นำมาเลเซีย บอกว่ามาเลเซียมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความเป็นมิตรกับจีนและผลักดันความสัมพันธ์สู่ขั้นสูงสุดระดับใหม่
       
       โดยจะมีกำหนดการเยือนระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม  ถึง 6 พฤศจิกายน      บรรดานักวิเคราะห์ ก็คาดการณ์กันว่า มาเลเซียและฟิลิปปินส์มีข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ แต่ ดูเตอร์เต ผ่อนปรนจุดยืนเพื่อผลักดันความสัมพันธ์กับปักกิ่ง และจีนเองก็อาจผ่อนคลายข้อพิพาทกับมาเลเซีย ด้วยการมอบข้อเสนอผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
       
       
       
       ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและจีนพุ่งแตะสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ เมื่อจีนให้การช่วยเหลือนายนาจิบ ด้วยการทุ่มเงิน 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าซื้อสินทรัพย์ในกองทุนอื้อฉาว 1MDB ซึ่งช่วยคลายความกังวลแก่นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย
       
       

   จีน   ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่มาเลเซียเพิ่มเติม โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2016 การลงทุนของจีนในภาคการผลิตของมาเลเซีย พุ่งแตะระดับ 356 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้จีนกลายเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในภาคการผลิตของมาเลเซีย  นอกจากนั้น บริษัทของจีนก็ยังคว้าสัญญาสำคัญๆในมาเลเซีย ในนั้นรวมไปถึงข้อตกลงสร้างท่าเรือในเมืองมะละกาและคาดหมายว่าจีนจะเป็นผู้ชนะการประมูลสร้างรางรถไฟความเร็วสูงด้วย
       
       การหันหน้าเข้าหาจีนของมาเลเซียมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ตึงเครียดกับสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงยุติธรรมอเมริกายื่นฟ้องร้องอันเกี่ยวกับการสืบสวนการฟอกเงินของกองทุน 1MDB ซึ่งมี นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษา  ซึ่งแน่นอนว่าผู้นำมาเลเซีย เอง ก็ปฎิเสธการแทรกแซงของ สหรัฐฯ โดยเฉพาะในประเด็นดังกล่าวว่า สหรัฐฯ เกี่ยวข้องอย่างไร และ ทำไมต้องหยิบยกประเด็นดังกล่าวนั้นออกเผยแพร่ต่อสาธารณชน
       



       
      

การเดินทางเยือนจีน ของผู้นำมาเลเซียในครั้งนี้ ก็อาจจะทำให้ จีน และ มาเลเซีย สามารถยกระดับความสัมพันธ์ ให้ดีขึ้นได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับ ที่ฟิลิปปินส์กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะความขัดแย้งในพื้นที่ทะเลจีนใต้ แม้ว่ามาเลเซีย อาจจะไม่รุนแรงนักเช่นกับฟิลิปปินส์ แต่ก็ยังมีความบาดหมาง และกระทบกระทั่งกันต่อเนื่องเช่นเดียวกัน   ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย  กำลังมองหาการลงทุนของจีนในด้านสาธารณูปโภคและการผลิต ขณะที่ข้อตกลงต่างๆด้านกลาโหมก็อาจถูกหยิบยกมาพิจารณาระหว่างการเดินทางเยือนคราวนี้อีกด้วย



เรียบเรียงโดย สถาพร เกื้อสกุล