"ปูติน" ซัด สหรัฐฯ เกิดอาการ "ฮิสทีเรีย" กลัวรัสเซีย แทรกแซงการเมืองภายใน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถ้อยแถลงในงานอภิปรายเรื่องนโยบายต่างประเทศของสโมสรวัลได ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย  เมื่อวันพฤหัสบดี (27 ตุลาคม 2559)  โดยได้กล่าวตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าไม่เคยรักษาสัญญาและสัจจะที่ให้ไว้ต่อกันในการร่วมคลี่คลายสงครามกลางเมืองในซีเรีย  แต่กลับเป็นฝ่ายเดินหน้าทำลายความร่วมมือระหว่างกันด้วยการตั้งข้อกล่าวหาเลื่อนลอยเพื่อประนามรัสเซีย อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นผู้นำรัสเซีย ยังบอกต่อว่า สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีการลงคะแนนกันในวันที่ 8 พฤศจิกายน  นี้ แต่เสถียรภาพทางการเมืองของสหรัฐกำลังตกอยู่ในภาวะ ที่ไม่ปกติ จากอาการ ฮิสทีเรีย ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ  ที่เชื่ออย่างจริงจังว่ารัสเซียมีศักยภาพและอิทธิพลเพียงพอในการแทรกแซงกิจกรรมการเมืองของสหรัฐฯ ได้

    ความจริงคือการหลอกลวงและเบี่ยงเบนความสนใจของชาวอเมริกันออกจากความจริงอันเลวร้าย ว่าสหรัฐฯไม่สามารถควบคุมการใช้ปืนในประเทศได้ และภาระหนี้สินกำลังท่วมล้นพ้นตัวจนแทบแบกรับไม่ไหวอยู่ในขณะนี้นั่นเอง

 

ในที่ประชุมก็มีการซักถาม โดยมีคำถามที่ถามถึงนั้นคือ การถามถือ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ โดยทางด้านปูตินกล่าวว่าทรัมป์อาจดูมีบุคลิก เล่นใหญ่ ในหลายสถานการณ์ แต่เป็นความพยายามในการเข้าถึงประชาชนที่กำลังเบื่อหน่ายกับนักการเมืองและกลุ่มคนมีฐานะ อย่างไรก็ดี รัสเซียพร้อมและยินดีทำงานร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

ส่วนทางด้าน จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวถึงถ้อยแถลงล่าสุดของผู้นำรัสเซีย ว่าไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย และรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงยืนยันตามเดิมว่า แฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลรัสเซีย พยายามแทรกแซงการเมืองของสหรัฐฯในช่วงการเลือกตั้งมาตลอด


 

เรียบเรียงโดย สถาพร เกื้อสกุล
ขอขอบคุณ สำนักข่าว AFP , theguardian.com