"สหรัฐฯ" สั่งเจ้าหน้าที่พร้อมครอบครัวออกจากตุรกี  อ้างกลัวก่อการร้าย  ส่วน "เออร์โดกัน" ยัน จะนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้ง

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐฯประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี พร้อมด้วยครอบครัวเดินทางออกจากตุรกี ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา

 สำนักข่าวเอเอฟฟี ได้รายงานว่า ระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐฯประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี พร้อมด้วยครอบครัวเดินทางออกจากตุรกี ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา  โดยให้เหตุผลว่า พลเมืองอเมริกันอาจตกเป็นเป้าสังหารของบรรดากลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่ง นี่ถือเป็นการออกคำเตือนของทางการสหรัฐฯ ต่อพลเมืองอเมริกันในตุรกีเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ หลังจากที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้  เพิ่งออกคำเตือนไปแล้วฉบับหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาว่าให้ชาวอเมริกันในตุรกีหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี เพราะอาจตกเป็นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้นภายหลังจากที่มีข้อมูลข่าวกรองที่ระบุว่า สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายไอเอส จากซีเรียและอิรักอาจแอบเข้ามาก่อเหตุรุนแรงในตุรกี โดยมีชาวตะวันตก โดยเฉพาะชาวอเมริกันเป็นเป้าสังหาร
       
      
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า มีทหารกองทัพตุรกีเสียชีวิตไปอย่างน้อย 3 นายในวันเสาร์ ที่ผ่านมา  และอีก 1 นายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตี ของกลุ่มติดอาวุธพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ที่เมืองซูกูร์กา ในเขตจังหวัดฮักการี ทางภาคตะวันออกของตุรกี
       
       ขณะเดียวกันตำรวจตุรกี สามารถบุกเข้าจับกุมสมาชิกกลุ่มพีเคเคจำนวน 6 รายและสมาชิกกลุ่มไอเอสอีก 6 รายในวันเดียวกัน โดยระบุ ทั้งหมดแฝงตัวเข้ามาในกรุงอังการาเพื่อเตรียมก่อเหตุรุนแรง

 ในขณะที่ทางผู้นำตุรกีอย่าง ประธานาธิบดีเรเซป เทอร์ยิบ เออร์โดกัน ได้เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของเขาจะร้องขอให้รัฐสภาพิจารณาการนำโทษประหารชีวิตกลับมาบังคับใช้ใหม่ เพื่อใช้ในการลงโทษแก่บรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามทำรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อเดือนกรกฎาคม 
              
       ก่อนหน้านี้ การลงโทษประหารชีวิตในตุรกีได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ.2004ในฐานะเงื่อนไขส่วนหนึ่งที่ตุรกีต้องยอมปฏิบัติตาม หากตุรกีประสงค์จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (อียู)
       
       ความพยายามก่อรัฐประหารโค่นอำนาจ ที่จบลงด้วยความล้มเหลวในวันที่ 15 กรกฎาคม กลายเป็นแรงผลักดันให้ผู้นำตุรกีประกาศจะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ แก่บรรดาผู้ก่อการ  และการเดินหน้ากวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้ร่วมก่อการอย่างไม่ลดละของผู้นำตุรกีนับจากนั้น     มีผู้ถูกจับกุมไปแล้วมากกว่า 35,000 รายหลังการเดินหน้ากวาดล้างของผู้นำตุรกีต่อกลุ่มผู้ก่อการกบฏ ที่รัฐบาลตุรกีเชื่อมั่นว่ามีเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาอิสลามชื่อดังวัย 75 ปี เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
       
       

"สหรัฐฯ" สั่งเจ้าหน้าที่พร้อมครอบครัวออกจากตุรกี  อ้างกลัวก่อการร้าย  ส่วน "เออร์โดกัน" ยัน จะนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้ง



เรียบเรียงโดย สถาพร  สำนักข่าวทีนิวส์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวเอเอฟพี  ภาพจาก สำนักข่าวไทย , เจ้าพระยานิวส์