- 31 ต.ค. 2559
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยอมรับว่าบางทีสหรัฐฯ ยังเป็นอภิมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลก และพร้อมทำงานร่วมกับใครก็ตามที่ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่วอนสหรัฐฯ เลิกแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยอมรับว่าบางทีสหรัฐฯ ยังเป็นอภิมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลก และพร้อมทำงานร่วมกับใครก็ตามที่ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่วอนสหรัฐฯ เลิกแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ และคอยชี้นิ้วสั่งให้ต้องใช้ชีวิตอย่างไร
ความเห็นของปูติน มีขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาอันขรุขระในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ซึ่งถูกกัดเซาะจากความเห็นต่างในหลากหลายประเด็น อย่างเช่นวิกฤตยูเครนและซีเรีย
ปูตินย้ำถึงคำวิจารณ์ต่อบทบาทนำทางอย่างผิดๆ ของสหรัฐฯ ในกิจการของยูเครน และบอกว่าเขาคัดค้านความพยายามของอเมริกาที่หวังขัดขวางรัสเซียจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป
ทว่าระหว่างการกล่าว ณ เวทีอินเตอร์เนชันแนล อิโคโนมิก ฟอรัม ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ปูตินก็มีคำพูดในทางบวกบางอย่างเช่นกัน “อเมริกาเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ และบางทีในวันนี้ อาจเป็นอภิมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียว เรายอมรับเรื่องนี้ เราต้องการและพร้อมทำงานร่วมกับสหรัฐฯ โลกต้องการประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และเราเองก็เช่นกัน แต่เราไม่ต้องการให้พวกเขาแทรกแซงอย่างไม่ลดละต่อกิจการภายในของเรา เที่ยวบอกเราว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร”
เมื่อถามเกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือน ปูติน พยายามไม่แสดงความคิดเห็นในทางบวกต่อว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯรายนี้อย่างเช่นในอดีต และบอกว่าคำพูดของเขาที่ผ่านมานั้นถูกนำไปตีความผิดๆ
ปูตินระบุว่านายทรัมป์เป็นบุคคลที่มีสีสัน มีพรสวรรค์และเป็นผู้นำอย่างแท้จริงในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหัฐฯ ซึ่งความเห็นเหล่านี้ประกอบกับปฏิกริยาอันอบอุ่นของทรัมป์ต่อปูติน กระพือข่าวลือว่ารัสเซีย คงพอใจหากได้เห็นทรัมป์นั่งเก้าอี้ทำเนียบขาว ปูตินบอกว่าเขายินดีที่นายทรัมป์ปรารถนาฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนปูตินพยายามลดความเสี่ยงจากการวางเดิมพันของรัสเซีย ด้วยหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นที่อาจถูกมองว่าเขากำลังเลือกข้าง และยังย้ำว่าเขามีความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งภรรยาของเขา นางฮิลลารีเป็นคู่แข่งสำคัญของนายทรัมป์ ในศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
ขอขอบคุณภาพจาก มุสลิมไทยโพสต์
