- 14 พ.ย. 2559
รายการ "60 นาที" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส เป็นรายการแรกที่ได้รับโอกาสสัมภาษณ์นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งรายการออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์
ซีบีเอสนิวส์ ได้รายงาน ว่า รายการ "60 นาที" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส เป็นรายการแรกที่ได้รับโอกาสสัมภาษณ์นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งรายการออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบในทุกคำถามที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสุดโต่งทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมอเมริกัน และการต่างประเทศ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีบุคลิกที่ สุขุมขึ้นมาก หลังคว้าชัยชนะเหนือนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนของพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่มหาเศรษฐีวัย 70 ปี ยังคง รักษาเอกลักษณ์ ของการใช้ถ้อยคำแบบ ขวานผ่าซาก ด้วยการกล่าวว่าทันทีที่เริ่มปฏิบัติหน้าที่ผู้นำสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. ปีหน้า วาระสำคัญลำดับแรกที่รัฐบาลของทรัมป์จะดำเนินการ คือการ เอาประเทศคืน จากผู้อพยพผิดกฎหมายที่รวมถึงผู้ลักลอบเข้าเมืองที่มีประวัติพัวพันอาชญากรรม ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ เชื่อว่าอาจมีมากถึง 3 ล้านคน โดยว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันการเนรเทศกลุ่มคนเหล่านี้หรือต้องรับโทษจำคุก อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังต่ำกว่าการประเมินของหลายฝ่าย ที่เชื่อว่าจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายในสหรัฐฯ อาจสูงถึง 11 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้
ขณะเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันจุดยืนในนโยบายการก่อสร้างกำแพงสูงตลอดแนวชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ที่ติดกับเม็กซิโก ที่เป็นหนึ่งในนโยบายเรียกเสียงฮือฮาได้ตลอดการหาเสียง 18 เดือนที่ผ่านมา กระนั้นทรัมป์ผ่อนท่าทีลงเล็กน้อยด้วยการเผยว่า การก่อสร้างใน บางพื้นที่ อาจเป็น รั้ว ในส่วนของการเสนอชื่อตุลาการศาลฎีกาซึ่งว่างอยู่ 1 ตำแหน่งจากทั้งหมด 8 คนนั้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าบุคคลที่เขาจะเสนอชื่อนั้นจะสนับสนุนการควบคุมการทำแท้ง และปกป้องสิทธิของชาวอเมริกันตามรัฐธรรมนูญในการครอบครองอาวุธปืน ส่วนประเด็นระบบประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" ทรัมป์กล่าวว่าจะพิจารณานโยบายพื้นฐานบางส่วนไว้ อาทิ การให้บุตรใช้ประกันสุขภาพแบบเดียวกับบิดามารดาจนถึงอายุ 26 ปี
นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้คำมั่นว่าตลอด 4 ปีที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ จะไม่ทำให้ประชาชนต้องผิดหวังในทุกเรื่อง และเมื่อผู้ดำเนินรายการถามถึงการที่ทรัมป์เคย "สัญญา" ว่าหากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้นำประเทศคนต่อไป จะไม่ขอรับเงินเดือนซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ปีละ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14 ล้านบาท เขา ยืนยันการรักษาคำพูดของตัวเองในเรื่องนี้ แต่ตามกฎหมายการทำงานต้องมีค่าตอบแทน ทรัมป์จึงกล่าวว่าจะรับปีละ 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นพอ หรือประมาณ ราว 35 บาท
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ไม่รับเงินเดือน โดยคนแรกคือประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ผู้นำสหรัฐคนที่ 31 ซึ่งอุทิศเงินเดือนของตัวเองให้กับการกุศลและเป็นโบนัสสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว และคนต่อมาคือประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี ผู้นำสหรัฐคนที่ 35 ซึ่งแบ่งสรรเงินเดือนของตัวเองทั้งหมดบริจาคให้กับองค์กรการกุศลหลายแห่ง โดยเคนเนดีมีธรรมเนียมของตัวเองในการไม่รับเงินเดือนตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์แล้ว
เรียบเรียงข้อมูลโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก CBS News