วุ่นวายไม่เลิก!! นักเรียนในสหรัฐฯ ลุกขึ้นต่อต้าน "โดนัลด์ ทรัมป์" ไม่เรียนหนังสือ ปิดถนน (ภาพ - คลิป)

สำนักข่าว เอเอฟพี ได้รายงาน เรื่อง นักเรียนหลายร้อยคนในหลายรัฐของสหรัฐฯ ได้ลุกออกจากห้องเรียน เพื่อแสดงออกเพื่อประท้วงต่อต้านว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
       
       เหล่านักเรียนทางตะวันออกของลอสแองเจลิสบางรายชูป้ายข้อความว่าลุกฮือขึ้น และ เรายืนหยัดด้วยกัน พร้อมโบกธงอเมริกาและเม็กซิโก เดินขบวนอย่างสันติไปยังลานแห่งหนึ่งในบอยล์ ไฮต์ส ย่านที่มีชาวฮิสแปนิกหรือชาวอเมริกันที่พูดภาษาสเปน เป็นชนกลุ่มใหญ่
       
       

นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นการเดินขบวนแบบเดียวกันในเมืองพอร์ตแลนด์ มลรัฐออริกอน เช่นเดียวกับในซิลเวอร์ สปริง มลรัฐแมรีแลนด์ สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกยังคงสูงลิ่ว หนึ่งสัปดาห์หลังทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
       
       การประท้วงในลอสแองเจลิสเกิดขึ้นแม้ว่าเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาเรียกร้องไม่ให้นักเรียนลุกออกจากห้องเรียน แล้วหันมาใช้แนวทางอื่นสำหรับแสดงความรู้สึกโกรธแค้นต่อผลการเลือกตั้ง
       
       “แม้ผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เลือกตั้งประธานาธิบดี นักเรียนจำนวนมากยังคงกังวลกับผลที่ออกมาและต้องการให้เสียงของพวกเขาเป็นที่รับฟัง” ไมเคิล คิง ผู้อำนวยการเขตการศึกษารวมลอสแองเจลิสกล่าว “สิ่งสำคัญคือต้องมีการพูดคุย เราต้องการให้พวกนักเรียนรู้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่พวกนักเรียนต้องไม่ให้ความรู้สึกกระทบต่อการศึกษาหรือแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่อาจนำพาพวกเขาไปสู่อันตราย”

 

 

สำหรับ แมรีแลนด์ มีรายงานว่า นักเรียนหลายร้อยคนจากโรงเรียนมัธยม 5 แห่งเดินขบวนผ่านซิลเวอร์ สปริง ถือป้ายข้อความว่า ไม่ใช่ประธานาธิบดีของเรา และทำการปิดการจราจร โดยมีผู้สัญจรผ่านไปมาตะโกนสนับสนุน ขณะที่พวกผู้ขับขี่บางส่วนก็บีบแตรแสดงความชอบอกชอบใจ ท่ามกลางเสียงตะโกนของนักเรียนว่า เราปฏิเสธว่าที่ประธานาธิบดี
       
       เจ้าหน้าที่โรงเรียนในแมรีแลนด์บอกว่านักเรียนเหล่านั้นอาจต้องเผชิญกับบทลงโทษทางวินัย จนกว่าพวกผู้ปกครองจะมีข้ออ้างที่ดีพอสำหรับการลุกออกจากห้องเรียนดังกล่าว
       
       การประท้วงเป็นการแสดงออกแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นทั่วประเทศตามหลังทรัมป์คว้าชัยชนะศึกเลือกตั้ง โดยผู้ชุมนุมประณามโวหารที่กระตุ้นความโกรธเคืองของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการหาเสียง เกี่ยวกับคนเข้าเมือง มุสลิม และผู้หญิง
       
       

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
ขอขอบคุณข้อมูล AFP , The Real News