- 21 พ.ย. 2559
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ พบหารือกันนานประมาณ 45 นาที
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน เรื่อง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ พบหารือกันนานประมาณ 45 นาที นอกรอบการประชุมสุยอดผู้นำกลุ่มประเทศสมาชิกความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ( เอเปก ) ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู โดยผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวในช่วงหนึ่งของการสนทนาว่า สงครามเย็นเป็นอุดมการณ์ทางการเมืองที่แบ่งแยกรัสเซียกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นอดีตดินแดนภายใต้อาณานิคมของสหรัฐฯ ทำให้ต้องห่างเหินกัน แต่นับจากนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นอีก
ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวต่อไปอีกว่า ประเทศตะวันตกขนาดใหญ่หลายแห่งมักมีวิสัยแสดงท่าทีข่มขู่กรรโชกประเทศที่มีขนาดเล็กและมีอิทธิพลน้อยกว่า โดยเฉพาะอเมริกาที่กระหายสงครามแทบตลอดเวลา เห็นได้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในเวียดนาม อัฟกานิสถานและอิรัก ที่สหรัฐฯ อ้างว่าอีกฝ่ายมี “อาวุธทรงอานุภาพทำลายล้าง” เพื่อเป็นข้ออ้างในการบุกรุก แต่แท้จริงแล้วอิรักไม่เคยมีอาวุธร้ายแรงที่ว่านั้นอยู่ในครอบครอง
ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต เผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ “กดดัน” ให้ฟิลิปปินส์ส่งทหารเข้าร่วมสงครามในเวียดนามและอิรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ ไม่เคยต้องการ โดยได้ถอนทหารออกจากอิรักหลังจากนั้น เนื่องจากมีกระแสข่าวการข่มขู่ลักพาตัวแรงงานชาวฟิลิปปินส์ในตะวันออกกลาง แต่การตัดสินใจของรัฐบาลฟิลิปปินส์ กลับสร้างความไม่พอใจให้แก่สหรัฐฯ
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ดูเตอร์เตแสดงความชื่นชมต่อปูตินอย่างเปิดเผย และยกย่องให้เป็น “วีรบุรุษในดวงใจ” โดยนอกเหนือสถานการณ์โลกในปัจจุบันแล้ว ผู้นำฟิลิปปินส์สนทนากับในเรื่องงานอดิเรกและความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละฝ่ายด้วย
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
คลิปโดย Ruptly TV