เอาที่สบายใจแล้วกัน!!  "โอบามา" เผยอาจแหกธรรมเนียม "วิจารณ์" โดนัลด์ ทรัมป์ หากทำไม่ดี "อ้าง" เพราะตนเป็นคนรักชาติ

ตามธรรมเนียมแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พ้นตำแหน่งมักไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือวิจารณ์รัฐบาลชุดปัจจุบัน

สำนักข่าวเอเจนซี่ส์ ได้รายงานข่าวของ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมซัมมิตความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู  ว่า ตนตั้งใจจะช่วยประคับประคอง นายโดนัลด์ ทรัมป์ และให้เวลาเขาในการกำหนดวิสัยทัศน์ แต่ในฐานะพลเมืองอเมริกันคนหนึ่ง ที่รักชาติดังนั้นตนอาจจะออกมาแสดงความคิดเห็นในบางเรื่องที่จะเป็นผลเสียต่อชาติ
 

ซึ่ง ตามธรรมเนียมแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พ้นตำแหน่งมักไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือวิจารณ์รัฐบาลชุดปัจจุบัน

      

       
       

     การแถลงข่าวก่อนพิธีปิดการประชุมเอเปก บารัค โอบามา ยืนยันอีกครั้งว่าตนจะแสดงความเป็นมืออาชีพด้วยการให้เกียรติรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เช่นเดียวกับที่ทีมงานของตนเคยได้รับจากอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช
       
       โดยทางด้าน จอร์จ ดับเบิลยู บุช ปฏิเสธที่จะวิจารณ์การทำงานของ บารัค โอบามา มาโดยตลอด และได้ให้เหตุผลกับซีเอ็นเอ็นเมื่อปี 2013 หลังจากที่ บารัค โอบามา ชนะเลือกตั้งสมัยที่สองว่า “มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา”
       
       “มันเป็นงานที่ยากลำบาก เขายังมีภารกิจหลายอย่างที่ต้องทำ มันยากพออยู่แล้ว อดีตประธานาธิบดีคนหนึ่งไม่ควรเข้าไปแทรกแซงให้เรื่องมันยากขึ้นไปอีก ประธานาธิบดีคนอื่นๆ อาจไม่คิดแบบนี้ แต่นี่คือความคิดของผม”

จุดยืนของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติของผู้นำสหรัฐฯ ที่จะไม่วิจารณ์ผู้ที่มาก่อนหรือหลังตนเอง ซึ่ง บารัค โอบามา ก็ยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงการตัดสินใจของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างที่ตนยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ แม้ว่าองค์กรปกป้องสิทธิพลเมืองจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับตัวบุคคลที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลชุดใหม่ก็ตาม
       
       สตีฟ แบนนอน ซึ่งถูกวางตัวเป็นหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ของ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยเป็นผู้บริหารเว็บไซต์ Breitbart ซึ่งถูกครหาว่าส่งเสริมการเหยียดเชื้อชาติและลัทธิต่อต้านชาวเซมิติก ส่วน พล.ท.ไมเคิล ฟลินน์ ซึ่ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ก็เคยวิจารณ์อิสลามว่าเป็นเสมือน “มะเร็ง” ที่กำลังลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ
       
       ส.ว.เจฟฟ์ เซสชันส์ ซึ่งถูกวางตัวเป็นรัฐมนตรียุติธรรม ก็เคยถูกปฏิเสธตำแหน่งผู้พิพากษารัฐบาลกลางเมื่อปี 1986 เพราะคำพูดเหยียดเชื้อชาติ
       
       
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์