"พล.อ.ประยุทธ์" บอกคนไทย "สบายใจได้ไทยมีเสถียรภาพ" และ อีกไม่นาน "เราก็จะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวแสดงปาฐกถาเนื่องในงานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (เจเอฟซีซีที) ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี-ล่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวแสดงปาฐกถาเนื่องในงานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (เจเอฟซีซีที) ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี-ล่า  ตอนหนึ่งว่า วันนี้เรากำลังสร้างอนาคตใหม่ของทุกคน โดยยึดหลักการว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งจากการพูดคุยกับบรรดาสมาชิกหอการค้าร่วม ต่างก็พึงพอใจการทำงานของประเทศไทย ซึ่งเราขอขอบคุณ การกล่าวปาฐกถาของตนวันนี้อยู่ในช่วงระยะเวลาที่คนไทยอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ ก็ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ความเศร้าโศกอาลัยกลายเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตด้วยความยั่งยืน เราได้สูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักเทิดทูนและเป็นศูนย์รวมดวงใจคนไทยทั้งชาติมาเป็นระยะยาวนานกว่า 70 ปี พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนมาโดยตลอด รวมทั้งได้พระราชทานแนวทางและพระราโชบายในการขับเคลื่อนประเทศตามลำดับอีกด้วย

"ขอยืนยันกับทุกคนว่า ไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ของไทย เพราะทุกอย่างยังคงมีเสถียรภาพเช่นเดิมทุกด้าน และใช้เวลาอีกไม่นานนักเราก็จะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ และเราก็จะทำหน้าที่เหมือนเช่นวันวานที่ผ่านมาในทุกเรื่องในหน้าที่ของรัฐบาล"

 

 รัฐบาลขอยืนยันว่า ขอเดินตามโรดแมปที่วางไว้ในการไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากลตามที่ได้วางไว้ และหวังว่าทุกคนคงจะคลายความกังวลลงได้บ้าง แม้จะมีความกังวลอยู่ก็ตาม แต่ขอยืนยันว่าเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ไทยเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตนไม่เคยปฏิเสธกระบวนการประชาธิปไตยบนโลกใบนี้ ดังนั้น ระยะเวลาที่เหลือจากนี้ไป รัฐบาลก็จะวางรากฐานระยะยาว หรือที่เรียกว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และไม่ว่าใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะทำ ตนจะอยู่หรือไม่ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็คงต้องอยู่ต่อไปอย่างที่วางไว้

 

ขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้พร้อมเสมอที่จะสนับสนุนให้ทุกประเทศมาลงทุนในไทย และพร้อมขจัดอุปสรรคและปัญหาต่างๆ จะทำให้กติกาเป็นสากล กฎหมายใดที่เป็นอุปสรรคก็จะนำมาพิจารณา และที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้ทำการปฏิรูปประเทศในระยะที่ 1 แล้ว ส่วนยุทธศาสตร์ที่กำลังทำอยู่ระหว่างปี 2559-2560 คือการก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน และในเรื่องเศรษฐกิจ เราได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเป็นผู้ดูแล ดังนั้น คงไม่ต้องมีคำถามว่าโรดแมปคืออะไรอีก เพราะโรดแมปก็คือโรดแมป รัฐบาลพร้อมเดินหน้าในระยะเวลาที่มีอยู่ ตนขอยืนยันว่าจะทำตามโรดแมปที่ผ่านมา พูดไม่รู้อีกร้อยครั้งก็ยังถามกันอยู่นั่น ไม่รู้จะถามทำไม ทุกอย่างยืนยันว่าเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ ทั้งการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ โปร่งใส เหมือนทุกประเทศที่มีอยู่ ตนก็มีความต้องการที่จะเดินหน้าแบบทุกประเทศ ไม่ใช่ไม่อยากให้ไทยเป็นเช่นนั้น

นายกฯกล่าวว่า บางครั้งประชาชนอาจไม่เข้าใจ ซึ่งประชาชนมีหลายระดับ หลายรายได้ แต่ต้องมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน จัดให้เขาเข้มแข็งด้วยตัวเอง เป็นแบบอย่างให้เขาเห็น ตนไม่เคยหยุดคิดแม้แต่วันเดียวเพื่อพวกท่าน ปัญหาคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาสำคัญ ต้องสร้างความโปร่งใส สร้างการตรวจสอบ เพิ่มโทษ ตั้งศูนย์ร้องเรียน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ รัฐบาลวันนี้เข้ามาผลักดันขับเคลื่อนงานให้เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ สร้างฐานรากขึ้นมาใหม่ให้เข้มแข็ง ประชาธิปไตยเข้มแข็ง พรุ่งนี้ใครจะลงทุนในประเทศไทยขอให้ยกมือ ขอบคุณที่มายื่นความต้องการหลายแสนหลายหมื่นล้านบาท ถ้าไม่ทำวันนี้มันจะช้าเกินไป