สันติภาพเกิดจากการเจรจา!! "ดูเตอร์เต"  กวักมือเรียก "กับกลุ่มโจรอาบู ไซยาฟ" เข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อสันติภาพ

ผู้นำฟิลิปปินส์ เรียกร้องต่ออาบู ไซยาฟ ซึ่งถูกระบุว่าลงมือโจมตีก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดในประเทศด้วย ให้เข้าสู่โต๊ะเจรจา

 ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวในระหว่างเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากการสู้รบกับกลุ่มโจรอาบู ไซยาฟ ในปฏิบัติการกวาดล้างตามคำสั่งของเขา ที่โรงพยาบาลในค่ายทหารนายพลบาสิลิโอ นาวาร์โร ในเมืองซัมโบวังกา เมื่อวันศุกร์ ว่า มีความเป้นไปได้ที่รัฐบาลจะจัดการเจรจากับอาบู ไซยาฟ 


    ผู้นำฟิลิปปินส์ เรียกร้องต่ออาบู ไซยาฟ ซึ่งถูกระบุว่าลงมือโจมตีก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดในประเทศด้วย ให้เข้าสู่โต๊ะเจรจา "เราไม่สามารถรักษาผู้คนที่เห็นอยู่นี้ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ตลอดไป เรามาเจรจากันดีกว่า เพื่อให้โอกาสกับประชาชนของเรา"


    รัฐบาลฟิลิปปินส์เพิ่งตกลงหยุดยิงกับกองโจรแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้กลุ่มใหญ่ที่สุด แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร่ หรือ เอ็มไอแอลเอฟ
    

ก่อนหน้านี้ทาง ผู้นำฟิลิปปินส์ บอกว่า เขาไม่สามารถเจรจรากับอาบู ไซยาฟ ได้ เนื่องจากโจรกลุ่มนี้ไม่มีลัทธิอุดมการณ์ และนักวิเคราะห์จำนวนมากกล่าวว่า อาบู ไซยาฟ มุ่งเน้นทำธุรกิจลักพาตัวเรียกค่าไถ่ มากกว่าอุดมการณ์ทางศาสนา 


    อย่างไรก็ตามเขายอมรับเมื่อวันศุกร์ ว่า การโจมตีทางทหารต่อโจรกลุ่มนี้ สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อพลเรือน ที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะห่างไกล ที่กลุ่มอาบู ไซยาฟนี้แฝงตัวอยู่ "ผมสามารถสั่งให้ทิ้งระเบิดอีกก็ได้ หากผมอยากทำ แต่ท้ายที่สุดผมจะพูดกับชาวฟิลิปปินส์ว่าอย่างไร เราทำลายล้างพี่น้องชาวมุสลิมของเราเกือบหมดอย่างนั้นใช่ไหม รวมทั้งผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย"

 ผู้นำฟิลิปปินส์ ยังกล่าวต่อว่า "หากมีการเจรจา ถ้าคุณต้องการเขตปกครองตนเอง หรือต้องการอย่างอื่น เช่น สหพันธรัฐ ผมพร้อมเสมอ ผมพร้อมจะให้มีการก่อตั้งระบอบการปกครองแบบสหพันธรัฐ เพื่อเอาใจชาวโมโร่" 

    กลุ่มอาบู ไซยาฟ ที่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้เป็น "องค์การก่อการร้ายต่างชาติ" ก่อตั้งขึ้นด้วยความช่วยเหลือของกลุ่ม อัล-กออิดะห์ ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 แกนนำกลุ่มประกาศสวามิภักดิ์โดยเปิดเผย ต่อกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก เมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงบางกลุ่มก็ยังมองว่า อาบู ไซยาฟ เป็นเพียงกลุ่มโจรที่มีเงินเป็นแรงจูงใจเท่านั้น

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์