เพราะอะไรถึงเงียบไป?? ต่างชาติวิจารณ์ "อองซาน ซูจี" นิ่งเรื่อง "โรฮีนจา" เพราะไม่กล้าหือ กับ "ทหาร"

นางอองซานซูจี วีรสตรีประชาธิปไตยแห่งพม่า ถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวที่จะปกป้องคุ้มครองชาวมุสลิมโรฮีนจา จากสิ่งที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบโดยกองทัพของประเทศ

สำนักข่าวเอพี รายงาน เรื่องราวของ นางอองซานซูจี วีรสตรีประชาธิปไตยแห่งพม่า ถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวที่จะปกป้องคุ้มครองชาวมุสลิมโรฮีนจา จากสิ่งที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบโดยกองทัพของประเทศ
       
       เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาคมโลกถึงการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยตลอดหลายปีภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร ยังคงปิดปากเงียบ แม้จะมีหลักฐานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของกองทัพในรัฐยะไข่ปรากฎเพิ่มขึ้นก็ตาม
       
       สหประชาชาติกล่าวว่า การปฏิบัติการด้านความมั่นคงในรัฐยะไข่เมื่อไม่นานนี้ เป็นการล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจา ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องหลบหนีไปบังกลาเทศ
       
       "ความล้มเหลวที่จะกล่าวสนับสนุนชาวโรฮีนจา ของซูจี สร้างความงุนงงให้กับผู้ที่ยืนกรานเลือกซูจีเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เรียกร้องสิทธิมนุษยชน" เดวิด แมทธีสัน จากฮิวแมนไรท์วอช กล่าว
       
       

แมทธีสัน กล่าวว่า การนิ่งเงียบของซูจีอาจเป็นเพราะไม่สนใจ หรือการสื่อสารได้อย่างจำกัด แต่ที่ดูจะมีแนวโน้มมากที่สุด คือ ซูจีนั้นไม่สามารถควบคุมกองทัพได้
       
       ชาวโรฮีนจาหลายพันคนหลบหนีการปิดล้อมทางทหารในรัฐยะไข่ไปบังกลาเทศ พร้อมกับเรื่องราวการละเมิดสิทธิมนุษยชนของทหาร ทั้งการข่มขืน การทรมาน และการฆ่าชาวมุสลิมโรฮีนจา

       

 


       กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ทหารใช้การโจมตีด่านชายแดนตำรวจเมื่อเดือนก่อน เป็นข้ออ้างในการปราบปรามชาวโรฮีนจา แต่รัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยระบุว่า ทหารเพียงแค่กำลังปกป้องประเทศจากผู้ก่อความไม่สงบ
       
       อย่างไรก็ตาม ทหารไม่อนุญาตให้ผู้สืบสวนและผู้สื่อข่าวต่างชาติเข้าไปในพื้นที่ปิดล้อม และโต้แย้งรายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธินั้นเป็นเรื่องเท็จ
       
       ซูจี ที่เดินทางไปเยือนอินเดียและญี่ปุ่นระหว่างเกิดเหตุวิกฤตในรัฐยะไข่ ได้แสดงความเห็นเพียงแค่กล่าวว่า การสืบสวนเหตุโจมตีกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย
       
       แต่ซูจีก็ต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มสูงขึ้น จากการนิ่งเฉยไม่ทำอะไรกับวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้
       
       

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนแมรี ในกรุงลอนเอน กล่าวว่า การนิ่งเงียบของซูจีเท่ากับเป็นการทำให้ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชอบด้วยกฎหมาย" และปกป้อง "การข่มเหงชนกลุ่มน้อยโรฮีนจา"
       
       "แม้ข้อเท็จจริงที่ว่า เรื่องนี้เป็นบททดสอบสำคัญของความเป็นผู้นำของซูจี แต่ผู้นำโดยพฤตินัยของพม่ากลับนิ่งเฉยไม่สนใจ" นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนแมรี กล่าว
       
       แม้อองซานซูจีจะนำพรรคของตัวเองเข้ากุมอำนาจบริหารประเทศ แต่ก็ถูกรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างขึ้นจำกัดอำนาจ ด้วยรัฐธรรมนูญนั้นสงวนที่นั่ง 1 ใน 4 ของสภาให้กับทหาร และควบคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
       
       นอกจากนั้น ซูจียังถูกจำกัดด้วยมุมมองของชาวพุทธพม่า ที่ว่าโรฮิงญานั้นเป็นผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตามที่แสดงถึงการสนับสนุนชาวโรฮีนจา มีความเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรงจากประชาชน

 

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
ภาพโดย AP