- 01 ธ.ค. 2559
เชคโมฮัมหมัด บิน ซาเลห์ อัล-ซาดา ประธานองค์กรกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปก ประกาศว่า โอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยจะให้มีผลตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป
เชคโมฮัมหมัด บิน ซาเลห์ อัล-ซาดา ประธานองค์กรกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปก ประกาศว่า โอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยจะให้มีผลตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ข้อสรุปดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดต่ำลงมากกว่า 2 ปี และมีมูลค่าตกลงถึงครึ่งหนึ่งของที่เคยเป็นในปี 2557 เนื่องจากมีน้ำมันในตลาดโลกมากเกินความต้องการ
หลังโอเปคประกาศปรับลดกำลังผลิต ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทันที 10% โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้นมาปิดเหนือระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 51.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันที่ซื้อขายในสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น 9% มาอยู่ที่ 49.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
โอเปกไม่ได้ให้รายละเอียดทั้งหมดว่าประเทศใดจะลดกำลังการผลิตเท่าไหร่ แต่ระบุว่ารัสเซียเตรียมจะปรับลดกำลังการผลิตลง 300,000 บาร์เรลต่อวันจากปริมาณการผลิตมากกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน ขณะที่ซาอุดีอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์มองว่ายังคงมีความไม่แน่นอนในความตกลงดังกล่าว เพราะสมาชิกโอเปกยังคงมีความเห็นที่แตกต่าง ทั้งนี้โอเปกจะหารือกับประเทศนอกกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับการปรับลดกำลังผลิตในภาพรวมในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ขณะที่โอเปกมีกำหนดจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 25 พฤศจิกายน เพื่อติดตามความคืบหน้าของความตกลงปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว
ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวทะยานขึ้นทันทีหลังมติของโอเปก โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอนพุ่งขึ้น 10% ปิดที่ 51.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ( ราว 1,818 บาท ) และราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต ( ดับเบิลยูทีไอ ) ของสหรัฐ ปิดตลาดที่ 49.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ( ราว 1,733.5 บาท ) เพิ่มขึ้น 9%
เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
คลิปโดย RT
