ไม่ใช่ขี้ข้า!! "ดูเตอร์เต" ซัดกลับ "อเมริกา" ไม่ใช่เมืองขึ้น ที่ต้องทำตามคำสั่ง ถึงจะได้เงินช่วยเหลือ

สื่อต่างประเทศได้รายงานว่า นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีของ ฟิลิปปินส์ กล่าวในวันนี้ว่า สหรัฐฯ ควรเตรียมยกเลิกข้อตกลงในการส่งทหารมาประจำการ และซ้อมรบกับกองทัพฟิลิปปินส์ พร้อมกับกล่าวว่า ฟิลิปปินส์ไม่ต้องการเงินของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวหลังเดินทางกลับจากกัมพูชา และสิงคโปร์ว่า ฟิลิปปินส์ไม่ต้องการสหรัฐฯ  สหรัฐฯเตรียมออกจากฟิลิปปินส์ได้ และเตรียมยกเลิกข้อตกลงวีเอฟเอด้วย

 

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์และสหรัฐฯได้ลงนามในข้อตกลงวิสิททิง ฟอร์ซ อะกรีเมนท์ (วีเอฟเอ)ซึ่งระบุให้ทหารสหรัฐหลายพันนายสามารถเข้าทำการซ้อมรบ และดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฟิลิปปินส์

 

ซึ่ง ก่อนหน้านี้ สถานทูตสหรัฐประจำฟิลิปปินส์ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บริษัทมิลเลนเนียม แชลเลนจ์ ซึ่่งตั้งขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อช่วยลดปัญหาความยากจนทั่วโลก ระงับการช่วยเหลือฟิลิปปินส์ เนื่องจากกังวลปัญหาการการเคารพหลักนิติธรรมและการละเมิดเสรีภาพพลเมืองในฟิลิปปินส์

การตัดสินใจมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ผู้นำฟิลิปปินส์ ได้ยอมรับว่า เคยฆ่าผู้ต้องสงสัยอาชญากรสมัยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา การตัดสินใจส่งผลให้ฟิลิปปินส์ไม่ได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่ หลังจากแผนความช่วยเหลือครั้งแรกนาน 5 ปีมูลค่า 430 ล้านดอลลาร์สิ้นสุดลง

 

ขณะที่ เว็บไซต์ แรปเปลอร์ ของฟิลิปปินส์ รายงานว่า ระหว่าง 1 ก.ค.ถึง 14 ธ.ค.มีผู้เสียชีวิตในสงครามกวาดล้างยาเสพติดแล้ว 6,095 คน ซึ่งมีเพียง 2,102 คนเสียชีวิตจากปฏิบัติการของตำรวจ และอีก 3,993 คนเสียชีวิตจากการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรมหรือการล้างแค้น

แต่ปรากฎว่า ผลสำรวจของ โซเชียล เวทเธอร์ สเตชั่น ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ระบุว่า ชาวฟิลิปปินส์ 77% พึงพอใจผลการทำงานของเขา

ทางด้านนายเพอร์เฟกโต ยาไซ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ กล่าวว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์ เรียกร้อง การปฏิบัติอย่างเท่าเทียม จากสหรัฐฯ มาตลอด ในฐานะที่ฟิลิปปินส์เป็นรัฐเอกราช ไม่ใช่ดินแดนภายใต้อาณานิคมของอีกฝ่ายแล้ว แต่การที่ฟิลิปปินส์ ต้องก้มหัว และอยู่ในสถานะเบี้ยล่างตามเงื่อนไขของสหรัฐฯ ก่อนได้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน

 

ทางด้านนายเออร์เนสโต เปอร์เนีย รมว.กระทรวงการวางแผนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ยอมรับว่าแม้เงินที่หายไป เป็นก้อนใหญ่แต่รัฐบาลฟิลิปปินส์สามารถบริหารประเทศให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ด้วยงบประมาณที่มีอยู่ และอาจหันไปขอความช่วยเหลือจากธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย ( เอไอไอบี ) ที่มีจีนเป็นหัวเรือใหญ่

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์
ภาพโดย ABS CBN News