ป๊าดโธ่!! นึกว่าแน่!!!  เจอ "ดูเตอร์เต" ขู่  "สหรัฐฯ" ถึงกับ ต้องออกแถลงการณ์แก้เกี้ยวกันกลางดึก

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงมะนิลา ได้ออกคำแถลงเมื่อกลางดึกวันเสาร์ ว่า สหรัฐฯ จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะบริหาร ของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต เพื่อแก้ไขคลี่คลายปัญหาข้อข้องใจต่างๆ ที่อาจจะมีกัน แต

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงมะนิลา ได้ออกคำแถลงเมื่อกลางดึกวันเสาร์  ว่า สหรัฐฯ จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะบริหาร ของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต เพื่อแก้ไขคลี่คลายปัญหาข้อข้องใจต่างๆ ที่อาจจะมีกัน แต่คำแถลงไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากกว่านี้
       
       การออกแถลงการณ์ดังกล่าวนั้น เนื่องจาก ผู้นำฟิลิปปินส์ ได้ ตอบโต้สหรัฐฯ ทันที หลังจากที่“มิลเลเนียม แชลเลนจ์ คอร์เปอเรชั่น” ซึ่งเป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงช่วงสัปดาห์ที่แล้วว่า คณะกรรมการบริหารของตนเลื่อนลงมติเรื่องการจัดสรรแพกเกจให้ความช่วยเหลือก้อนใหญ่ก้อนใหม่แก่ฟิลิปปินส์ออกไปก่อน เพื่อจะได้ตรวจสอบทบทวนให้มากขึ้น สืบเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเข่นฆ่าผู้ต้องสงสัยแบบใช้ศาลเตี้ย ในสงครามกวาดล้างยาเสพติดของผู้นำฟิลิปปินส์  โดยทางด้านผู้นำฟิลิปปินส์ ได้กล่าวย้ำว่า  ฟิลิปปินส์ สามารถอยู่รอดได้ โดยไม่ได้ต้องรับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ  และที่สำคัญ โรดริโก ดูเตอร์เต ได้ย้ำว่า  จะยื่นหนังสือบอกกล่าวเหมือนกัน เตรียมตัวถอนออกไปจากฟิลิปปินส์ได้เลย เตรียมตัวเอาไว้ได้เลยสำหรับการยกเลิกกันแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรือการเพิกถอนข้อตกลงให้กองทหารเข้ามาเยือน


 

       ทั้งนี้ เขากำลังอ้างอิงถึงสัญญาข้อตกลงที่ทำกันเมื่อปี 1998 ซึ่งเปิดทางให้กองทหารอเมริกันผลัดเวียนเดินทางเข้าไปเยือนฟิลิปปินส์ เพื่อการซ้อมรบร่วมกับฝ่ายฟิลิปปินส์  สัญญาฉบับนี้เองซึ่งเปิดทางให้กองทหารสหรัฐฯเข้าไปช่วยเหลือฟิลิปปินส์ในการจำกัดควบคุมการก่อความไม่สงบอย่างรุนแรงของกองกำลังอาวุธมุสลิมในภาคใต้ รวมทั้งช่วยเหลือฝึกอบรมและติดอาวุธกองทหารฟิลิปปินส์ในการเผชิญหน้ากับจีนในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่พิพาทกันอยู่
       

 

 

ป๊าดโธ่!! นึกว่าแน่!!!  เจอ "ดูเตอร์เต" ขู่  "สหรัฐฯ" ถึงกับ ต้องออกแถลงการณ์แก้เกี้ยวกันกลางดึก

 

      
       ผู้นำฟิลิปปินส์ ยังได้ดถึงรัสเซียว่า สามารถที่จะเป็นพันธมิตรรายสำคัญมากของฟิลิปปินส์ได้ “พวกเขาไม่ดูหมิ่นคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้แทรกแซงใคร” 

 

 

     การที่สหรัฐฯ ถึงกับออกอาการ ลุกลี้ ลุกลน ในการออกแถลงการณ์ครั้งนี้ ก็เพราะเกรงว่า จะยิ่งเพลี่ยงพล้ำให้กับ จีน และ รัสเซีย ในเอเชียนั้นเอง เพราะถ้าไม่มีฟิลิปปินส์  ที่ให้ใช้ฐานทัพ หรือดำเนินการทางทหาร สหรัฐฯ ก็จะยิ่งลำบากในการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธต่าง ๆ  เข้ามาไว้ในภูมิภาคแห่งนี้  ซึ่งนั้นหมายถึง นโยบายปักหมุดเอเชีย ของ บารัค โอบามา ก็จะพังอย่างไม่เป็นท่านั่นเอง

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์