ต้องยุ่งทุกเรื่องใช่ไหม!! "สหรัฐฯ" ออกประนาม "เกาหลีเหนือ" ทันที หลัง "คิม จองอึน" บอกพร้อมยิงขีปนาวุธพิสัยไกล

สหรัฐฯ ได้แถลงประนามเกาหลีเหนือ พร้อมเตือนให้ยุติการกระทำยั่วยุ หลังจากที่ผู้นำ คิม จองอึน ออกมาขู่รับปีใหม่ว่ากำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า สหรัฐฯ ได้แถลงประนามเกาหลีเหนือ  พร้อมเตือนให้ยุติการกระทำยั่วยุ หลังจากที่ผู้นำ คิม จองอึน ออกมาขู่รับปีใหม่ว่ากำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (Intercontinental ballistic missile - ICBM)
โดยการแถลงของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทุกประเทศ แสดงให้เกาหลีเหนือรับรู้ว่า การกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายจะต้องได้รับผลตอบสนอง
       
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับปีใหม่ 2017 ประกาศว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่สามารถถล่มเป้าหมายในสหรัฐฯ ได้นั้น คืบหน้าถึงขั้นสุดท้าย ใกล้ความสำเร็จเข้ามาทุกขณะ


โดยคำปราศรัยความยาว 30 นาทีของผู้นำ คิม จองอึน เน้นหนักไปที่ความสำเร็จในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์และขีปนาวุธชนิดต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้วผู้นำเกาหลีเหนือยังได้โอ้อวดว่า  รัฐคอมมิวนิสต์โดดเดี่ยวของเขาได้ผงาดเป็นมหาอำนาจทางด้านนิวเคลียร์ แล้ว และขณะนี้ก็เป็นมหาอำนาจด้านการทหารในโลกตะวันออก ที่แม้แต่ศัตรูที่เข้มแข็งที่สุดก็ไม่อาจแตะต้องได้
       
        ต้องยุ่งทุกเรื่องใช่ไหม!! "สหรัฐฯ" ออกประนาม "เกาหลีเหนือ" ทันที หลัง "คิม จองอึน" บอกพร้อมยิงขีปนาวุธพิสัยไกล

 

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติห้ามเกาหลีเหนือใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทุกรูปแบบ พร้อมกับเตือนให้ หยุดการกระทำยั่วยุและคำพูดก้าวร้าวที่จะบั่นทอนสันติภาพและความมั่นคงของนานาชาติสหรัฐฯ มีเจตนารมณ์แนวแน่ที่จะปกป้องชาติพันธมิตรด้วยศักยภาพด้านการป้องปรามอย่างเต็มรูปแบบ

 ผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องความก้าวหน้าของโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ เพราะ เกาหลีเหนือเองก็ยังไม่เคยนำขีปนาวุธ ICBM ออกมายิงให้ทั่วโลกประจักษ์ในความสำเร็จ  อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ทุกคนเห็นตรงกันว่า เทคโนโลยีของเกาหลีเหนือก้าวหน้าไปอย่างมากนับตั้งแต่ คิม จอง อึน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดต่อจากบิดาเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2011
       
ทางด้านของสหรัฐฯ เตือนว่า เกาหลีเหนือค้นพบวิธีติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนจรวด และยิงมันออกไปได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถบังคับให้จรวดย้อนกลับเข้ามาในชั้นบรรยากาศ และโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำเท่านั้น เท่านั้นเอง

หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจแสดงพฤติกรรมยั่วยุหนักขึ้น หลังจากผู้นำเกาหลีใต้ ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้เกาหลีใต้ตกอยู่ภายใต้การบริหารของผู้นำชั่วคราว คือ นายกรัฐมนตรี ฮวาง เคียว-อันห์
       
       ในเรื่องความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้นั้น ผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันว่า พร้อมที่จะ “จับมือกับใครก็ตามที่มีเจตนาฟื้นฟูความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-ใต้ให้ดีขึ้น” 

คิม จองอึน ยังเรียกร้องให้เกาหลีใต้ยุติการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่บั่นทอนความสัมพันธ์สองเกาหลีเรื่อยมา
       
     
  “ตราบใดที่พวกเขายังไม่หยุดซ้อมรุกรานประจำปี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ก็จะต้องพัฒนาศักยภาพในการป้องกันตนเองและการโจมตีก่อน (pre-emptive striking) ยิ่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ โดยจะเน้นหนักไปที่การสร้างกองกำลังนิวเคลียร์”
       
พร้อมกับการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และยุตินโยบายก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือ ทว่าไม่ได้เอ่ยถึงว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตรงๆ
       
 ทางด้านสหรัฐฯ เอง ก็เคยประกาศย้ำหลายครั้งว่าจะไม่มีวันยอมให้เกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐนิวเคลียร์ แต่ตัวของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เองนั้นไม่เคยระบุอย่างชัดเจนว่าจะมีนโยบายต่อเกาหลีเหนืออย่างไร
       
      แท ยองโฮ อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษซึ่งตัดสินใจหลบหนีมายังกรุงโซลเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือตั้งใจจะฉวยโอกาสช่วงที่มีการผลัดเปลี่ยนตัวผู้นำในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในปี 2017 เร่งรัดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์