อย่าลืมส่งของไทยกลับมาด้วยนะ!! "กัมพูชา" ประสานไทย จับกุม ผู้ต้องสงสัย ตัดต่อภาพพระมหากษัตริย์กัมพูชา โดนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือทางการไทย ช่วยจับกุม 1 ในผู้ต้องสงสัย 3 คนที่เกี่ยวข้องกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์กัมพูชา

 ทั้งนี้ ตำรวจกัมพูชา สงสัยว่าชายคนดังกล่าวและเพื่อนอีกสองคน อยู่เบื้องหลังการตัดต่อภาพที่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อพระมหากษัตริย์กัมพูชา โดยภาพตัดต่อที่ไม่เหมาะสมนี้ปรากฏอยู่ในบัญชีเฟซบุ๊คหลายบัญชี ทั้งในประเทศกัมพูชาและไทยในสัปดาห์นี้

 

ด้านโฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา พล.ท.เขียว โสเพียก ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งการให้จับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว หากไม่ดำเนินการใดๆอาจจะทำให้มีคนกระทำตามอย่างมากขึ้น แต่โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาปฏิเสธที่จะระบุว่าจะใช้ข้อกฎหมายใดในการดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายนี้ 

 

พล.ท.เขียว โสเพียก โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา แถลงในวันจันทร์ ว่าหน่วยงานรักษากฎหมายที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งให้เร่งจับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน ฐานร่วมกันตัดต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ด้วยความไม่เหมาะสมด้วยประการทั้วปวง จากนั้นนำไปเผยแพร่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิเสธเปิดเผยว่าผู้กระทำผิดทั้งสามคนเป็นใคร และละเมิดกฎหมายข้อใด กล่าวว่ารัฐธรรมนูญของกัมพูชาระบุไว้อย่างชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์ของกัมพูชาเป็นบุคคลที่ ล่วงละเมิดมิได้ การกระทำที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เป็นการลบหลู่พระองค์และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่เท่ากับเป็นการดูหมิ่นชาวกัมพูชาทั้งประเทศด้วย  ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทยแล้ว

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์นโรดม ปัจจุบันทรงเจริญพระชนมพรรษา 63 พรรษา ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ และสมเด็จพระราชินีนโรดม มุนีนาถ สีหนุ ทรงสำเร็จการศึกษาด้านศิลปะและดนตรีจากสาธารณรัฐเช็ก พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2547 หลังพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงสละราชสมบัติ

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์