หัดดูตัวเองซะบ้าง!! "จีน" ตอกหน้า "สหรัฐฯ" อย่ายุ่งเรื่องไต้หวัน หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" ทวิต กล่าวหาจีน ไม่ดูแล เกาหลีเหนือ

นายเกิ้ง ซวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงประจำวันอังคาร ว่าความพยายามอย่างหนักของรัฐบาลจีน เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีในการเป็นเขตปลอดนิวเคลียร์นั้น เป็

สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่า นายเกิ้ง ซวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงประจำวันอังคาร ว่าความพยายามอย่างหนักของรัฐบาลจีน เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีในการเป็นเขตปลอดนิวเคลียร์นั้น เป็นสิ่งที่ประจักษ์แก่ทุกฝ่ายมาตลอด

ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ในอนาคตภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตระหนักถึง ความอ่อนไหว ในประเด็นที่เกี่ยวกับไต้หวัน หลังมีความเป็นไปได้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจพบกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ระหว่างที่เธอแวะเปลี่ยนเที่ยวบินในสหรัฐฯ เพื่อเดินทางต่อไปยังลาตินอเมริกาในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายเกิ้ง ซวง เป็นการตอบโต้การทวีตของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเหน็บแนมจีนว่าใช้นโยบายการค้าที่เอาเปรียบเพื่อนำเงินมหาศาลไปจากสหรัฐฯ แต่กลับไม่นำไปช่วยเหลือเกาหลีเหนือ

ขณะเดียวกันทางด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ออกมาทวีตข้อความปรามาสเกาหลีเหนือว่าไม่มีวัน ที่จะส่งขีปนาวุธนิวเคลียร์มาโจมตีแผ่นดินอเมริกาได้สำเร็จ โดย คำแถลงของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ผู้นำ คิม จอง อึน ประกาศในสุนทรพจน์ปีใหม่ว่า โครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ของโสมแดงนั้นคืบหน้ามาถึง ขั้นตอนสุดท้าย (final stages) ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการขู่ ให้รัฐบาล ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับจุดยืนเป็นมิตรต่อเกาหลีเหนือมากขึ้น
       สหรัฐฯ เคยย้ำหลายครั้งว่าจะไม่มีวันยอมให้เกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐนิวเคลียร์ แต่ตัวของนายโดนัลด์  ทรัมป์ เองไม่เคยระบุอย่างชัดเจนว่าจะมีนโยบายต่อเกาหลีเหนืออย่างไร
       
       ล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ออกมาทวิตโดยวิจารณ์บทบาทของจีนในการควบคุมพฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ
       

       “จีนสูบทรัพย์สินเงินทองไปจากสหรัฐฯ มากมายมหาศาลจากการค้าขายแบบเอากำไรฝ่ายเดียว แถมยังไม่ช่วยกำราบเกาหลีเหนือด้วย... ดีซะจริง!” 
       
     

นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือถือโอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับปีใหม่ 2017 ประกาศว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) คืบหน้าถึงขั้นสุดท้าย ใกล้ความสำเร็จเข้ามาทุกขณะ พร้อมระบุว่าเกาเหลีเหนือได้มุ่งมั่นศักยภาพด้านการป้องปรามนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2016 จนมีความแข็งแกร่ง
       
       โดยคำปราศรัยความยาว 30 นาทีของผู้นำ คิม จองอึน เน้นหนักไปที่ความสำเร็จในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์และขีปนาวุธชนิดต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้วผู้นำเกาหลีเหนือยังได้โอ้อวดว่า  รัฐคอมมิวนิสต์โดดเดี่ยวของเขาได้ผงาดเป็นมหาอำนาจทางด้านนิวเคลียร์ แล้ว และขณะนี้ก็เป็นมหาอำนาจด้านการทหารในโลกตะวันออก ที่แม้แต่ศัตรูที่เข้มแข็งที่สุดก็ไม่อาจแตะต้องได้

      
      
 “ปีที่ผ่านมามีความสำเร็จหลายอย่างที่ทำให้แสนยานุภาพของเราเกรียงไกรยิ่งกว่าเก่า รวมถึงการเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่ดำเนินมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว”

ผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องความก้าวหน้าของโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ เพราะ เกาหลีเหนือเองก็ยังไม่เคยนำขีปนาวุธ ICBM ออกมายิงให้ทั่วโลกประจักษ์ในความสำเร็จ  อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ทุกคนเห็นตรงกันว่า เทคโนโลยีของเกาหลีเหนือก้าวหน้าไปอย่างมากนับตั้งแต่ คิม จอง อึน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดต่อจากบิดาเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2011
       
ทางด้านของสหรัฐฯ เตือนว่า เกาหลีเหนือค้นพบวิธีติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนจรวด และยิงมันออกไปได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถบังคับให้จรวดย้อนกลับเข้ามาในชั้นบรรยากาศ และโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำเท่านั้น เท่านั้นเอง

หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจแสดงพฤติกรรมยั่วยุหนักขึ้น หลังจากผู้นำเกาหลีใต้ ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้เกาหลีใต้ตกอยู่ภายใต้การบริหารของผู้นำชั่วคราว คือ นายกรัฐมนตรี ฮวาง เคียว-อันห์
       
       ในเรื่องความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้นั้น ผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันว่า พร้อมที่จะ “จับมือกับใครก็ตามที่มีเจตนาฟื้นฟูความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-ใต้ให้ดีขึ้น” 


คิม จองอึน ยังเรียกร้องให้เกาหลีใต้ยุติการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่บั่นทอนความสัมพันธ์สองเกาหลีเรื่อยมา
       
     
  “ตราบใดที่พวกเขายังไม่หยุดซ้อมรุกรานประจำปี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ก็จะต้องพัฒนาศักยภาพในการป้องกันตนเองและการโจมตีก่อน (pre-emptive striking) ยิ่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ โดยจะเน้นหนักไปที่การสร้างกองกำลังนิวเคลียร์”
       
พร้อมกับการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ และยุตินโยบายก้าวร้าวต่อเกาหลีเหนือ ทว่าไม่ได้เอ่ยถึงว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตรงๆ
       
 ทางด้านสหรัฐฯ เอง ก็เคยประกาศย้ำหลายครั้งว่าจะไม่มีวันยอมให้เกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐนิวเคลียร์ แต่ตัวของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เองนั้นไม่เคยระบุอย่างชัดเจนว่าจะมีนโยบายต่อเกาหลีเหนืออย่างไร
       
      แท ยองโฮ อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษซึ่งตัดสินใจหลบหนีมายังกรุงโซลเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือตั้งใจจะฉวยโอกาสช่วงที่มีการผลัดเปลี่ยนตัวผู้นำในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในปี 2017 เร่งรัดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์