สหรัฐฯสุมไฟสงครามเกาหลี!! "สหรัฐฯ" ยืนยันติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธใน "เกาหลีใต้" แม้ "จีน" ค้านหนัก

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าว    กรณีเกาหลีใต้ และ สหรัฐฯ เห็นร่วมกันที่จะติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธชั้นบรรยากาศชั้นสูง (THAAD) ในตอนใต้หลังจากการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธหลายครั้งของเกาหลีเหนือ นำมาซึ่งเสียงคัดค้านอย่างหนักจากจีน
       
       ฮาน มินคู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้รายงานเรื่อง การติดตั้ง THAAD เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของเราที่จะเสริมการป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือถึงประธานาธิบดีรักษาการณ์ของประเทศนี้
      
       
       แต่พรรคฝ่ายค้านประชาธิปไตยระบุว่า พวกเขาจะทบทวนการติดตั้งนี้หากพวกเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมาถึง และสมาชิกสภานิติบัญญัติของพวกเขากลุ่มหนึ่งเดินทางไปยังจีนเพื่อพบ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ เพื่อบอกกับจีนว่า การติดตั้งระบบ THAAD นั้นควรจะเป็นความรับผิดชอบของประธานาธิบดีคนต่อไป ไม่ใช่หน้าที่ของผู้นำรักษาการณ์ อย่างในปัจจุบันนี้
       

      
    

   การเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศนี้ซึ่งกำหนดเดิมคือเดือนธันวาคมปี 2017 อาจถูดเลื่อนเข้ามาหากการถอดถอนพัคถูกพิพากษายืนโดยศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีเวลาตัดสินใจ 6 เดือน  มุน แจอิน ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคประชาธิปไตยและเป็นตัวเก็งในการเลือกตั้งในตอนนี้
       
       จีนให้เหตุผลว่า ระบบ THAAD จะทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและเพิ่มความเสี่ยงเกิดความขัดแย้งทางทหารในภูมิภาคนี้    นอกจากนั้นจีนยังได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตร ไปยังเกาหลีใต้ อาทิ ข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับศิลปินเคป๊อบชาวเกาหลีและผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ของจีนหรือทำการแสดงในจีนแผ่นดินใหญ่        จีนยังไม่ยอมรับเที่ยวบินเหมาลำจากเกาหลีใต้ทีจะมาเทศกาลตรุษจีนด้วย ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวกำไรงามนี้อย่างหนัก
       
       แต่ทางด้านสหรัฐฯ  ก็ยังยืนกรานว่า ระบบ THADD ไม่เป็นภัยคุกคามต่อจีน

 

       

ทางด้านรัฐบาลสหรัฐฯ หวังว่า จะได้ข้อสรุปในการเจรจาส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธล้ำสมัยไปยังเกาหลีใต้ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือมุ่งมั่นทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง “มูซูดัน” จนสำเร็จ       
       สหรัฐ  และเกาหลีใต้ พูดคุยกันมานานหลายสัปดาห์เกี่ยวกับการส่งระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) ไปยังคาบสมุทรเกาหลี เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากจรวดของเกาหลีเหนือ ทว่า โครงการนี้ก็ถูก “จีน” คัดค้านอย่างรุนแรง

       “เราอยากให้การพูดคุยครั้งนี้ได้ข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพ ในเวลาที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคิดว่า ฝ่ายเกาหลีใต้ก็คงปรารถนาเช่นกัน” ปีเตอร์ คุก เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันศุกร์ ที่ 24 มิ.ย.
       
       เขายืนยันว่า การเจรจา “คืบหน้าไปมาก” แต่ยังมีรายละเอียดบางประการที่ต้องตกลงกัน
       
       เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง “มูซูดัน” จำนวน 2 ลูก เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันพุธ  โดยจรวดลูกแรกถูกปล่อยออกจากฐานยิงก่อนเวลา 06.00 น. เล็กน้อย และประสบความล้มเหลวตามเคย แต่ยังมีจรวดมูซูดันลูกที่สองถูกยิงออกจากสถานที่เดียวกันบนชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ ในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา และคราวนี้สามารถเดินทางข้ามทะเลตะวันออก (ทะเลญี่ปุ่น) ได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร
       
       ผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ ออกมาประกาศว่า จรวดมูซูดันลูกที่สองประสบความสำเร็จในการยิงทดสอบ
              รัฐบาลเกาหลีใต้ยังลังเลที่จะอนุญาตให้สหรัฐฯ ส่งระบบ THAAD เข้าไปยังดินแดนของตน เนื่องจากไม่อยากผิดใจกับปักกิ่งซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่
              จีนเกรงว่า ขีปนาวุธ THAAD จะเป็นภัยคุกคามต่อระบบป้องกันนิวเคลียร์ของตนเอง และการที่อาวุธล้ำสมัยของสหรัฐฯ ถูกส่งมาติดตั้งถึงหน้าประตูบ้านของจีน ก็เท่ากับทำให้สมดุลอำนาจในแปซิฟิกเอียงไปข้างอเมริกามากขึ้น
       
       คุก ระบุว่า เจ้าหน้าที่เพนตากอนได้ร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ
       
       “เราทั้ง 3 ชาติต่างประณามการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้อย่างรุนแรง และเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนือยุติการกระทำยั่วยุที่บั่นทอนความมั่นคง และหันมาปฏิบัติตามพันธกรณีที่ให้ไว้กับนานาชาติ” เขากล่าว
       
       “เราเห็นตรงกันว่า พฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ มีแต่จะกระตุ้นให้นานาชาติใช้มาตรการตอบโต้หนักหนวงยิ่งขึ้น”

 

     การกระทำของเกาหลีเหนือ ล่าสุดนั้น ทำให้สหรัฐ ยิ่งได้ความชอบธรรมในการอ้างที่จะนำเอา  ระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) ไปยังคาบสมุทรเกาหลี  ซึ่งแน่นอนว่า เกาหลีใต้ คงจะเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ เวลานี้ เกาหลีใต้ ก็ยังเกรงอิทธิพล ของจีน และ รัสเซียอยู่บ้าง เพราะกลัวว่าจะได้รับผลกระทบ กับเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์