ด่วน!! เกิดเหตุ "คาร์บอมส์" ในซีเรีย ตายแล้วกว่าครึ่งร้อย บาดเจ็บอีกเพียบ ความรุนแรงหวนคืนหลัง "รัสเซีย" ถอนกำลังกลับประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว มีคนร้ายใช้รถบรรทุกน้ำมันก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดบริเวณตลาดหน้าศาลท้องถิ่นของเมืองอาซาซ ฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏในประเทศซีเรียและอยู่ติดกับพรมแดนประเทศตุรกี  แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 43 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

 นักรบฝ่ายกบฏ อย่างน้อย 6 คน อยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากการโจมตีด้วย แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นพลเรือน ขณะเดียวกันการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตก็ทำได้อย่างยากลำบากเพราะสภาพศพไหม้เกรียมเป็นส่วนใหญ่

 

 

ในขณะที่ กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียระบุว่า การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ในวาดีบาราดา เขตควบคุมของฝ่ายกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของดามัสกัสที่เป็นที่ตั้งของแหล่งน้ำสำคัญของเมืองหลวง   การสู้รบเมื่อทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นทหารซีเรียอย่างน้อย 7 คนและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 20 คน บางคนอยู่ในอาการสาหัส
การจ่ายน้ำจากเขตวาดีบาราดาถูกตัดตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม       รัฐบาลและกบฏต่างโยนความรับผิดชอบให้อีกฝ่าย โดยรัฐบาลระบุว่า กบฏจงใจพุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำส่วนฝ่ายต่อต้านระบุว่า กองทัพโจมตีสถานีสูบน้ำ
       
       การสู้รบดำเนินต่อไปในพื้นที่นี้ทั้งๆ ที่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมมีการเริ่มบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศที่มีรัสเซียพันธมิตรรัฐบาลและตุรกีผู้สนับสนุนฝ่ายกบฏเป็นคนกลาง 

       ข้อตกลงหยุดยิงที่ได้รับการยอมรับจากทั้งรัฐบาลและกบฏกลุ่มหลักๆ ได้นำความสงบมาสู่พื้นที่ส่วนใหญ่ของซีเรีย แต่ความรุนแรงยังคงมีอยู่ในเขตวาดาบาราดา
       
       มีการหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงที่จะหยุดการสู้รบนี้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้าไปยังพื้นที่เพื่อซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำนี้  แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดและยูเอ็นเตือนเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ในตอนนี้มีประชาชน 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำในเมืองหลวงและแถบชานเมือง
       
     

ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน แอดมีรัล คุซเนตซอฟ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์และกองเรือพิฆาตอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางออกจากพื้นที่สู้รบในซีเรียตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งประกาศเมื่อปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะลดกำลังพล และ อาวุธ ออกจากประเทศซีเรีย เนื่องจากสถานการณ์นั้นเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น

 

เรือบรรทุกเครื่องบิน คุซเนตซอฟ เข้าไปประจำการที่ฐานทัพริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในภาคตะวันตกของซีเรีย ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย  โดยมุ่งเน้นพื้นที่ในจังหวัดอเลปโปที่อยู่ทางเหนือสุดของซีเรีย ตลอดระยะเวลา 2 เดือนของการปฏิบัติการ เครื่องบินรบที่ออกเดินทางจากเรือคุซเนตซอฟสามารถทำลายเป้าหมายได้ 1,525 จุด และช่วยให้กองทัพซีเรียสามารถยึดเขตตะวันออกของจังหวัดอเลปโปกลับคืนจากฝ่ายกบฏได้เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. ถือเป็นชัยชนะทางทหารครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของฝ่ายรัฐบาล นับตั้งแต่เกิดสงครามเมื่อปี 2554

 

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์