ของจริงหรือเปล่า!! "เกาหลีใต้" ชี้ "เกาหลีเหนือ" สามารถผลิตนิวเคลียร์ได้ ส่วน"สหรัฐฯ" เผย เป็นไปได้จรวดเกาหลีเหนือยิงถึงสหรัฐฯ

สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานข่าว การออกสมุดปกขาว ของรัฐบาลเกาหลีใต้ เผยแพร่ โดย เนื้อหาสาระสำคัญ คือการชี้ว่า เกาหลีเหนือมีพลูโตเนียมมากพอ ที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ได้ไม่ต่ำกว่า 10 ลูก โดยทางด้านกระทรวงเกาหลีใต้ ได้ประเมินว่า  เกาหลีเหนือ น่าจะมีพลูโตเนียมที่สามารถนำมาผลิตอาวุธร้ายแรงอยู่ราว 50 กิโลกรัมในช่วงปลายปี 2016 เพิ่มขึ้นจาก 40 กิโลกรัมเมื่อ 8 ปีก่อน และมากพอที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ไม่ต่ำว่า 10 ลูก


สมุดปกข่าวดังกล่าว นั้น ได้ บอกด้วยว่าเกาหลีเหนือมีศักยภาพ มากพอสมควร ในการนำเอายูเรเนียมสมรรถนะสูงมาผลิตเป็นอาวุธ แต่ไม่ได้คาดการณ์ปริมาณยูเรเนียมที่พวกเขามีอยู่ เนื่องจากโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็นภารกิจลับสุดยอดของเกาหลีเหนือ 

       กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ชี้ว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงงานยองบยอน (Yongbyon) ซึ่งถูกเปิดใช้งานขึ้นมาใหม่ ช่วยให้เกาหลีเหนือผลิตยูเรเนียมได้มากและเร็วขึ้น

      
       เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมานั้นสถาบันเพื่อวิทยาศาสตร์และความมั่นคงนานาชาติ  ซึ่งมีฐานในสหรัฐฯ ได้ประเมินจำนวนระเบิดนิวเคลียร์ในคลังแสงของเกาหลีเหนือไว้มากกว่า 21 ลูก เพิ่มขึ้นจากสถิติ 10-16 ลูกเมื่อปี 2014 โดยสรุปจากปริมาณยูเรเนียมและพลูโตเนียมที่คาดการณ์
       
         
       ในการกล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับปีใหม่ 2017 ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ประกาศว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธ ICBM ของเกาหลีเหนือคืบหน้าถึง ขั้นสุดท้าย ใกล้ความสำเร็จเข้ามาทุกขณะ และ หลังจากนั้นไม่นาน ทางด้านเกาหลีเหนือ ก็ออกมาประกาศว่าพร้อมจะยิงขีปนาวุธรุ่นนี้ได้ทุกที่ ทุกเวลา หากมีการสั่งการจากผู้มีอำนาจ

ส่วนทางด้าน กองทัพสหรัฐฯ  โดยทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า 
       
         
       "หากขีปนาวุธนั้นเป็นภัยคุกคามกับเรา มันก็จะถูกยิงสกัด แต่หากไม่เป็นภัย เราก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะว่าเราอาจจะได้ประโยชน์มากกว่า ประการแรกคือเราจะได้ประหยัดขีปนาวุธสกัดกั้นเอาไว้ และประการที่สองคือเราจะได้รวบรวมข่าวกรองระหว่างที่จรวดกำลังเดินทาง แทนที่จะไป (ยิงสกัด) ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เป็นภัยคุกคาม”  โดยนายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวครั้งสุดท้าย ก่อนที่รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหมดวาระลงในวันที่ 20 ม.ค.นี้
       

          
       ผลการประเมินในปี 2016 ซึ่งสำนักงานทดสอบอาวุธของกลาโหมสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า ระบบขีปนาวุธสกัดกั้นของสหรัฐฯ ที่ติดตั้งบนพื้นดินเพื่อยิงทำลายจรวด ICBM จากชาติศัตรูนั้น มีศักยภาพจำกัด และ เชื่อถือได้น้อยมาก 
       
       หากปล่อยให้พัฒนาจนสมบูรณ์แบบ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จรวด ICBM ของเกาหลีเหนือจะเดินทางไปถึงสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 9,000 กิโลเมตร และแม้ว่าจรวด ICBM ส่วนใหญ่จะมีพิสัยเดินทางขั้นต่ำ 5,500 กิโลเมตร แต่บางรุ่นก็อาจถูกออกแบบให้สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปถึง 10,000 กิโลเมตร หรือไกลกว่านั้นก็ได้

     อดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า สหรัฐฯ มีเพียง 2 ทางเลือกที่จะชะลอโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ นั่นคือการเจรจา หรือไม่ก็ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้ายับยั้ง  ทั้ง 2 ทางเลือกยังไม่อาจการันตีความสำเร็จได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และหากสหรัฐฯ เลือกใช้ปฏิบัติการทางทหารก็อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ประชิดกับเกาหลีเหนือ
       
นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่าสถานการณ์กำลังเข้าสู่ภาวะอันตราย และใกล้จุดนั้นเข้ามาทุกขณะเพราะหาก คิม จองอึน ยืนกรานที่จะพัฒนาจรวด ICBM ต่อไป ก็เท่ากับดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะสุ่มเสี่ยง ซึ่งอาจจะต้องหาวิธีการอื่นๆ ที่แข็งกร้าวและมีอิทธิพลต่อทางเลือกของเขามากกว่านี้

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์