โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกับ เงิบ!! ศาลอุทรณ์ ไม่รับคำร้อง ให้กลับมาใช้คำสั่งห้าม 7 ชาติมุสลิม เข้าประเทศ  หลังโดนศาลสั่งให้ระงับคำสั่งดังกล่าว

ผู้พิพากษา เจมส์ โรบาร์ต ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศคำพิพากษาที่มีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว ผู้พิพากษา เจมส์ โรบาร์ต ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศคำพิพากษาที่มีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา และคาดว่า จะมีการออกคำพิพากษาฉบับเต็มที่เป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง  โดย ทางด้านผู้พิพากษา ให้ระงับคำสั่งบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งห้ามผู้ลี้ภัยและพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม เดินทางเข้าอเมริกาชั่วคราว โดยมีผลบังคับในทันที

        
       หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาได้ไม่นาน สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (US Customs and Border Protection) ก็แจ้งไปยังสายการบินต่างๆ ให้รับผู้โดยสารจากประเทศมุสลิมทั้ง 7 เดินทางมายังสหรัฐฯ ได้ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศก็ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ ว่า กำลังประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เพื่อพิจารณาว่าคำสั่งศาลจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของกระทรวงอย่างไรบ้าง และจะแจ้งความเปลี่ยนแปลงให้ทราบทันทีที่มีข้อมูล
       
       คำสั่งบริหารที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ก่อให้เกิดความโกลาหลตามสนามบินต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ตลอดสุดสัปดาห์ที่แล้ว ผู้โดยสารบางคนขึ้นเครื่องบินมาแล้วแต่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ มีการชุมนุมประท้วงตามอาคารผู้โดยสารขาเข้า ขณะที่หลายองค์กรทั่วอเมริกาก็พยายามใช้ช่องทางกฎหมายหักล้างคำสั่งของประธานาธิบดี
       
 ฝ่ายบริหารรัฐวอชิงตันได้ยื่นฟ้องศาลในนครซีแอตเติล เพื่อคัดค้านคำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งต่อมารัฐมินนิโซตาก็ได้เข้าร่วมด้วย   ผู้พิพากษาวินิจฉัยว่า แต่ละรัฐมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะยื่นฟ้องได้ ซึ่งข้อนี้อาจเปิดทางให้อัยการสูงสุดรัฐต่างๆ ใช้กฎหมายเล่นงาน ผู้นำสหรัฐฯ ในประเด็นอื่นๆ นอกเหนือไปจากเรื่องคนเข้าเมือง
       
       เอกสารคำฟ้องของรัฐวอชิงตัน อ้างว่า รัฐได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากนักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยที่รัฐให้ทุนอุดหนุนจำนวนมากไม่สามารถเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ ได้

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง วิจารณ์กันสนั่น !! นักเขียนวาดภาพล้อเลียนทรัมป์ ถือมีดอาบเลือด ตัดศีรษะเทพีสันติภาพ "เข่นฆ่าประชาธิปไตย" (มีคลิป)



ผู้พิพากษา เจมส์ โรบาร์ต ได้สอบสวนทนายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยในรัฐวอชิงตัน และยังตั้งคำถามด้วยว่า การที่รัฐบาลอ้างเหตุวินาศกรรมนิวยอร์กเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ปี 2001 มาเป็นเหตุผลแบนพลเมือง 7 ชาติมุสลิมนั้นเหมาะสมหรือไม่

โรบาร์ต ชี้ว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 เป็นต้นมา สหรัฐฯ ก็ยังไม่เคยเผชิญเหตุโจมตีที่เป็นฝีมือของพลเมืองชาติทั้ง 7 ที่ถูกแบนเลย และหาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ปรารถนาจะให้คำสั่งของเขาถูกต้องตามรัฐธรรมนูญก็ควรจะ มีพื้นฐานจากความเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องแต่ง

นิโคลัส เอสปิริตู ทนายความจากศูนย์กฎหมายคนเข้าเมืองแห่งชาติ (National Inmigration Law Center) ชี้ว่าคำพิพากษานี้แสดงให้เห็นว่า ผู้พิพากษาศาลส่วนกลางทั่วสหรัฐฯ ต่างเล็งเห็นว่าคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง

เอริค เฟอร์เรโร โฆษกองค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) ในสหรัฐฯ ก็ได้กล่าวชื่นชมมาตรการแทรกแซงชั่วคราวของศาลซีแอตเติล แต่ย้ำว่า สภาคองเกรสควรยื่นมือเข้ามาขัดขวางคำสั่งแบนที่มิชอบด้วยกฎหมายนี้ด้วย

 

โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกับ เงิบ!! ศาลอุทรณ์ ไม่รับคำร้อง ให้กลับมาใช้คำสั่งห้าม 7 ชาติมุสลิม เข้าประเทศ  หลังโดนศาลสั่งให้ระงับคำสั่งดังกล่าว

ทางด้าน คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ให้กระทรวงยุติธรรมยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เขต 9 อันเป็นส่วนหนึ่งของการอุทธรณ์เพื่อล้มล้างคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในซีแอตเติลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  ที่สั่งระงับมาตรการแบนการเดินทางของพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิม ของผู้นำสหรัฐฯ
       
ศาลอุทธรณ์เขต 9 ได้ปฏิเสธคำร้องดังกล่าว โดยทางผู้พิพากษา วิลเลียม แคนบี จูเนียร์ในฟินิกซ์ และผู้พิพากษา มิเชลล์ ฟรายด์แลนด์ ในซานฟรานซิสโก ไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ แต่แจ้งกับรัฐวอชิงตัน และมินเนโซตาที่ฟ้องล้มล้างคำสั่งแบนการเดินทางของทรัมป์เป็นรัฐแรกๆ ให้จัดหาเอกสารชี้แจงเหตุผลในการคัดค้านคำสั่งดังกล่าวและมอบให้ศาลภายในเวลา 23.59 น. วันอาทิตย์  พร้อมขีดเส้นตายให้กระทรวงยุติธรรมเสนอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนคำสั่งของทรัมป์ภายในเวลา 15.00 น. วันจันทร์
       
        คำวินิจฉัยนี้เท่ากับว่า การระงับคำสั่งแบนการเดินทางยังคงมีผลบังคับใช้ โดยทั้งกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแถลงว่าจะกลับไปใช้แนวทางปฏิบัติปกติในการดำเนินการกับนักเดินทางจาก 7 ประเทศที่ถูกแบน
       
    
      รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ให้สัมภาษณ์ว่า คนอเมริกันชินกับประธานาธิบดีที่ปากกับใจตรงกันคนนี้ และยังบอกว่า เขาไม่คิดว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์ผู้พิพากษาจะเป็นการบ่อนทำลายหลักการแบ่งแยกอำนาจอย่างที่มีคนวิจารณ์กัน
       
คำตัดสินของผู้พิพากษา เจมส์ โรบาร์ต ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกในการท้าทายทางกฎหมายที่อาจยืดเยื้อนานนับเดือนต่อคำสั่งฝ่ายบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการสกัดการเดินทางเข้าอเมริกาของผู้ลี้ภัยและพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม ได้แก่ อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน ที่ทำให้สนามบินทั่วอเมริกาสับสนอลหม่าน นักเดินทางจำนวนมากตกค้าง และคนนับพันชุมนุมประท้วงตลอดสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ สมาชิกพรรคเดโมแครต และชาติพันธมิตรของอเมริกา ต่างออกมาประณามการแบนการเดินทางว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง กระแสตก!!ห้างดังยกเลิกขายสินค้า"ลูกสาวทรัมป์"...โดนแบนเพราะความทรัมป์!!! (มีคลิป)
       

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์