สหรัฐฯ ปากว่าตาขยิบ!! รมว.กลาโหมสหรัฐฯ สวนทาง รมว.ต่างประเทศ เรื่องทะเลจีนใต้ "ยืนยัน" สหรัฐฯ ยังไม่เคลื่อนไหวใหญ่ทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว

รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ พล.อ.เจมส์ แมตทิส ได้บอกว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่สหรัฐฯจะต้องมีการเคลื่อนไหวทางทหารขนาดใหญ่ๆ ในทะเลจีนใต้

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ พล.อ.เจมส์  แมตทิส  ได้บอกว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่สหรัฐฯจะต้องมีการเคลื่อนไหวทางทหารขนาดใหญ่ๆ ในทะเลจีนใต้ เพื่อกดดัน กับพฤติการณ์ยืนกรานแข็งกร้าวของจีน ในอาณาบริเวณดังกล่าว แต่ควรจะต้องดำเนินการทางการทูตมากกว่า 


ระหว่างที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ไปให้ปากคำเพื่อขอการอนุมัติรับรองการดำรงตำแหน่งจากวุฒิสภาอเมริกัน เขาแถลงว่าไม่ควรยินยอมปล่อยให้จีนเข้าไปยังเกาะเทียมต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ที่จีนถมแนวปะการังก่อสร้างขึ้นมา ต่อจากนั้นทำเนียบขาวยังแถลงสำทับว่า จะคุ้มครองปกป้อง ดินแดนระหว่างประเทศ ในน่านน้ำทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนั้น  คำพูดของเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ตลอดจนคำแถลงจากทำเนียบขาว บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะใช้การปฏิบัติการทางการทหาร หรือกระทั่งการใช้กองเรือรบเข้าทำการปิดล้อมสกัดกั้น

การปฏิบัติการเช่นนั้นย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าด้วยอาวุธกับจีน ผู้เป็นมหาอำนาจทางทหารซึ่งติดอาวุธนิวเคลียร์อย่างน่าเกรงขามมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นจีนยังมีฐานะเป็นชาติเจ้าของระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดซึ่งถูกนายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาเล่นงานว่ากำลังโจรกรรมตำแหน่งงานไปจากชาวอเมริกัน

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง สื่อ "แฉ" ผู้นำสหรัฐฯ สั่ง "เพนตากอน" เตรียมพร้อมทำ "สงครามโลก"



สหรัฐฯ ปากว่าตาขยิบ!! รมว.กลาโหมสหรัฐฯ สวนทาง รมว.ต่างประเทศ เรื่องทะเลจีนใต้ "ยืนยัน" สหรัฐฯ ยังไม่เคลื่อนไหวใหญ่ทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว
 

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นั้น เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์  แสดงท่าทีพร้อมเข้าเผชิญหน้ากับจีน อย่างดุดัน โดยพูดในขณะให้ปากคำต่อวุฒิสภาอเมริกันว่าควรต้องปฏิเสธไม่ยอมให้จีนเข้าไปยังเกาะเทียมแห่งต่างๆ ที่ทางด้านจีนนั้นสร้างขึ้นในทะเลจีนใต้ 
       
เร็กซ์ ทิลเลอร์สันได้กล่าวต่อที่ประชุมของคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์แห่งวุฒิสภา ระหว่างกระบวนการให้ปากคำเพื่อขอให้สภาสูงสหรัฐฯอนุมัติรับรองการเข้าดำรงตำแหน่งของเขาว่า จีนกำลังสร้างเกาะเทียมต่างๆ ขึ้นมา และกำลังนำเอาทรัพย์สินต่างๆ ทางการทหารไปประจำยังเกาะเหล่านั้น เหมือนๆ กับการที่รัสเซียยึดไครเมีย ไปจากยูเครน
       
เรากำลังจะต้องส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังจีนว่า ประการแรก การสร้างเกาะจะต้องหยุดลง และประการที่สอง การที่คุณจะเข้าถึงเกาะเหล่านั้น ก็จะไม่ได้รับความยินยอมอีกต่อไปแล้ว
       
แต่ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะทำอย่างไรที่จะปฏิเสธไม่ยอมให้จีนเข้าไปยังเกาะเหล่านั้นซึ่งจีนเป็นผูสร้างขึ้นมาจากการถมแนวปะการังต่างๆในทะเลจีนใต้ แล้วจากนั้นก็สร้างทางขึ้นลงของเครื่องบินซึ่งใช้งานทางการทหารได้ รวมทั้งยังนำเอาอาวุธต่างๆ เข้าไปติดตั้งกลายเป็นป้อมปราการขึ้นมา
       
ทางด้าน นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวว่่า เขาไม่สามารถพูดคาดเดาใดๆ ได้ว่าสิ่งที่ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน กล่าวนั้นหมายความว่าอย่างไร รวมทั้งจะไม่ขอตอบคำถามใดๆ ที่อยู่ในลักษณะของการตั้งข้อสมมุติ โดยสิทธิของจีนที่จะดำเนินกิจกรรมตามปกติในดินแดนอธิปไตยของตนในทะเลจีนใต้

 

 

สหรัฐฯ ปากว่าตาขยิบ!! รมว.กลาโหมสหรัฐฯ สวนทาง รมว.ต่างประเทศ เรื่องทะเลจีนใต้ "ยืนยัน" สหรัฐฯ ยังไม่เคลื่อนไหวใหญ่ทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว

 

เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ยังบอกต่อว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องย้ำยืนยันพันธะผูกพันที่มีตนมีอยู่ไต้หวัน ซึ่งจีนถือว่าเป็นมณฑลกบฏที่จะต้องนำกลับเข้ามารวมกับแผ่นดินใหญ่ ทว่าเขาไม่ได้ไปไกลถึงขนาด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังตั้งคำถามว่าจำเป็นด้วยหรือที่สหรัฐฯ จะต้องดำเนินนโยบายจีนเดียว ซึ่งก็คือการรับรองว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
       
1979 สหรัฐฯได้เปลี่ยนจากที่เคยรับรองในทางการทูตว่าสาธารรัฐจีนที่ไต้หวันคือตัวแทนของจีน มาเป็นยอมรับสาธารณรัฐประชาชนจีนบนแผ่นดินใหญ่แทน ตลอดจนรับรองหลักการจีนเดียว ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ทว่าในเวลาเดียวกันสหรัฐฯก็ยังคงวางตัวเป็นพันธมิตรรายใหญ่ที่สุดและเป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่ที่สุดของไต้หวันอยู่   เมื่อถูกสมาชิกของคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์จี้ถามเรื่องนโยบายจีนเดียว เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน กล่าวตอบว่า ผมไม่ทราบเลยว่ามีแผนการใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงจุดยืนเรื่อง จีนเดียว
      

 


นอกจากนี้แล้ว เรกซ์ ทิลเลอร์สัน ยังบอกว่า เขาพิจารณากิจกรรมที่จีนดำเนินอยู่ในทะเลจีนใต้ว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และจะเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกทั่วทั้งหมด ถ้าจีนสามารถที่จะบงการควบคุมการเข้าถึงทะเลจีนใต้ได้สำเร็จ
โดยสถานการณ์ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะสหรัฐฯมีการตอบโต้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม ความล้มเหลวของการตอบโต้ เป็นการเปิดทางให้พวกเขาคอยแต่จะถือโอกาสขยายเรื่องนี้ให้กว้างขวางออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ

       
       คณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา นั้นได้ดำเนินการตรวจการณ์ทางอากาศและทางทะเลอยู่เป็นระยะๆ เพื่อเป็นการสำแดงสิทธิในการเดินเรือและเดินอากาศอย่างเสรีในทะเลจีนใต้ การกระทำเช่นนั้นทำให้จีนนั้นไม่พอใจ แต่การเข้าสกัดกั้นไม่ให้จีนเข้าไปยังเกาะเทียมต่างๆ ที่จีนสร้างขึ้นมานั้นย่อมถือเป็นมาตรการที่ไปไกลกว่านั้นมาก และเป็นมาตรการซึ่งสหรัฐฯ ยังไม่เคยหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งมาก่อนเลย
       
       
กองทัพเรือสหรัฐฯมีสมรรถนะอย่างยิ่ง ที่จะปฏิบัติการสกัดกั้นเรือผิวน้ำ, เรือดำน้ำ, และเครื่องบินใดๆ ก็ตามที แต่ความเคลื่อนไหวแบบเป็นปรปักษ์ต่อกองนาวีซึ่งกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ของจีนเช่นนี้ ย่อมทำให้สถานการณ์เพิ่มความเสี่ยงในการเผชิญหน้าระหว่างจีน กับสหรัฐฯ ในบริเวณทะเลจีนใต้อย่างยิ่ง

 

เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เรียกการที่จีนสร้างเกาะเทียมในทะเลจีนใต้ และการประกาศเขตแสดงตนเพื่อความมั่นคงทางอากาศขึ้นในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งมีกรณีพิพาทอยู่กับญี่ปุ่นว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พวกเขากำลังเข้าครอบครองดินแดนหรือเขาควบคุม หรือประกาศเข้าควบคุดินแดนต่างๆ ซึ่งไม่ได้เป็นของจีนอย่างถูกต้อง สหรัฐฯไม่สามารถที่จะยอมรับ คำมั่นสัญญาอันว่างเปล่าของจีนได้อีกต่อไป ในเรื่องที่จะออกแรงบีบคั้นกดดันเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของประเทศนั้น
       
 

นอกจากการจัดการกับจีนแล้ว เขายังบอกวิธีการที่จะจัดการกับทางด้านเกาหลีเหนือ ด้วยว่า อยู่ในลักษณะแผนการระยะยาว ซึ่งอิงอยู่กับมาตรการลงโทษคว่ำบาตรและการเอามาตรการเช่นนี้มาใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเหมาะสม

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ชัดเจน พึ่งพาตนเองลดพึ่งพาสหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์จีน!! "ดูเตอร์เต" ร้องขอ "จีน" ส่งเรือลาดตระเวนน่านน้ำสากล "ย้ำ" จีน จริงใจ กว่า "สหรัฐฯ"

 

สหรัฐฯ ปากว่าตาขยิบ!! รมว.กลาโหมสหรัฐฯ สวนทาง รมว.ต่างประเทศ เรื่องทะเลจีนใต้ "ยืนยัน" สหรัฐฯ ยังไม่เคลื่อนไหวใหญ่ทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว

 

 

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์