คุยไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องคุย!!"โรดริโก ดูเตอร์ เต" ยกเลิกเจรจาสันติภาพกับ "กบฎ" สั่งกองทัพเตรียมรับมือสงครามยืดเยื้อ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ของฟิลิปปินส์ แถลงเมื่อวันเสาร์ ว่ายังไม่พร้อม สำหรับการเจรจาสันติภาพครั้งใหม่ระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์  กับแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ ( เอ็นดีเอฟพี ) ซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่จะมีขึ้นในกรุงออสโล ช่วงปลายเดือนนี้ หลังกองทัพฟิลิปปินส์และกองทัพประชาชนใหม่ ( เอ็นพีเอ ) ซึ่งเป็นกองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมใจกันประกาศยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเผยด้วยว่าได้สั่งการให้คณะผู้แทนเจรจาทั้งหมดของรัฐบาลเดินทางกลับประเทศแล้ว และขอให้กองทัพฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมสำหรับ สงครามที่ยืดเยื้อ

นอกจากนี้ผู้นำฟิลิปปินส์ ยังได้ออกคำสั่งให้สมาชิกระดับแกนนำหลายคนของกลุ่มกบฏเหมา ที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อปีที่แล้วเพื่อให้เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ มอบตัวและกลับเข้าสู่เรือนจำอีกครั้ง มิเช่นนั้นจะมีการออกหมายจับและส่งเจ้าหน้าที่ไล่ล่าตามกระบวนการต่อไป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกบฏยังไม่แสดงท่าทีอย่างชัดเจนต่อคำกล่าวของผู้นำฟิลิปปินส์ในเรื่องนี้

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ดูเตอร์เต จัดยาแรงอีกดอก ดึงกองทัพทำสงครามปราบยาเสพติด ซัดคำแรง "ผมจะฆ่าให้มากขึ้น ขอเพียงกำจัดยาเสพติดให้สิ้นซาก" (รายละเอียด)

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของฝ่ายรัฐบาลฟิลิปปินส์ เกิดขึ้นหลังการเจรจาร่วมกับเอ็นดีเอฟพีที่กรุงออสโล เมื่อเดือนส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานสู่การเจรจานอกรอบตามมาอีกหลายครั้ง  แต่ผู้แทนของทั้งสองฝ่ายไม่อาจตกลงกันได้ในการเจรจาที่กรุงโรม เมื่อช่วงกลางเดือนม.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้แทนของรัฐบาลมองว่าข้อเรียกร้องของอีกฝ่าย ซึ่งต้องการให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองฝ่ายซ้ายมากกว่า 400 คน  รวมถึงมือปืนที่ลอบสังหารทหารอเมริกันเมื่อปี 2532 ด้วยนั้นเกิดกว่าที่ทางรัฐบาลจะรับได้

การสู้รบระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์กับกองกำลังของเอ็นพีเอ ถือเป็นหนึ่งในความขัดแย้งด้านอาวุธระหว่างรัฐบาลกับกบฏที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 40,000 คน ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ทศวรรษที่ผ่านมา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง อย่าแม้จะคิดนะ!! "ดูเตอร์เต" เตือน "สหรัฐฯ" อย่าคิดสะสมอาวุธในฟิลิปปินส์ ถ้ายังไม่ฟัง "จัดหนัก" แน่

เรียบเรียงโดย สถาพร สำนักข่าวทีนิวส์