สู้กันบนเวทีสากล!! "รัสเซีย จีน" วีโต้ มติประณามซีเรีย กลางที่ประชุมยูเอ็น ด้านฝรั่งเศส สหรัฐฯ ประณามรัสเซีย ทำให้ยูเอ็นขาดเอกภาพ

จีนและรัสเซียพร้อมใจใช้สิทธ์ วีโต มติประณามซีเรียในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยทูตรัสเซีย บอกว่า มติซึ่งอาจจะนำไปสู่การคว่ำบาตรซีเรีย กรณีใช้อาวุธเคมีนั้น ไม่เป็นดีต่อการเจรจาสันติภาพที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

การวีโตดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่การเจรจาสันติภาพที่นครเจนีวา ยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงได้ สำหรับสงครามกลางเมืองที่มีมายาวนานต่อเนื่องกว่า 6 ปีแล้ว ทำให้ประชาชนเสียชีวิต และต้องอพยพออกนอกพื้นที่เป็นจำนวนมาก รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรทางทหารรายใหญ่ของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ผู้นำซีเรียได้ร้องขอให้เข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในซีเรีย นั่นเอง โดยรัสเซียได้ใช้อำนาจวีโตเพื่อช่วยเหลือซีเรียมาแล้วถึง 7 ครั้ง ขณะที่จีนเอง ก็โหวตปกป้องซีเรียมาแล้ว 6 ครั้ง

 

 

ด้านผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้เอ่ยเตือนก่อนที่จะมีการโหวตว่า การลงโทษรัฐบาลซีเรียทั้งๆ ที่ยังมีการเจรจาสันติภาพอยู่ที่นครเจนีวานั้นไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง

ส่วนทางด้านนางนิกกี ฮาร์ลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ได้ตอบโต้ผู้นำรัสเซียว่ามติดังกล่าวนั้นมีความเหมาะสมแล้ว


 

มติประณามซีเรียซึ่งร่างขึ้นโดยอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ได้รับการโหวตเห็นชอบจาก 9 ประเทศ และมี 3 ประเทศที่คัดค้าน ได้แก่ โบลิเวีย จีน และรัสเซีย ส่วนอียิปต์ เอธิโอเปีย และคาซักสถาน ของดออกเสียง

ทั้งนี้ มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะต้องได้รับการโหวตเห็นชอบจากรัฐสมาชิกอย่างน้อย 9 ประเทศ และไม่มีสมาชิกถาวรใช้สิทธิ์วีโตจึงจะสามารถผ่านมตินั้นได้

โดยเนื้อหาหลักของร่างมติกำหนดให้มีการขึ้นบัญชีดำพลเมืองซีเรีย 11 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้บัญชาการทหาร และองค์กรอีก 10 แห่งที่มีส่วนพัวพันกับการใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนในช่วงปี 2014-2015 นอกจากนี้ยังห้ามประเทศใดๆ จำหน่ายเฮลิคอปเตอร์และสารเคมีให้แก่กองทัพหรือรัฐบาลซีเรีย

ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาตินั้น ได้สรุปผลการสอบสวนเมื่อเดือน ตุลาคม ปีที่ผ่านมาว่า กองทัพอากาศซีเรียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์นำถังบรรจุก๊าซพิษคลอรีนไปถล่มหมู่บ้าน 3 แห่งที่อยู่ในการยึดครองของพวกกบฏ เมื่อปี 2014 และ 2015

ขณะที่ฟรองซัวส์ เดอลาตร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำยูเอ็น ชี้ว่า การใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนสะท้อนถึงความไร้คุณธรรม

 

 

 

 

 

ด้านนายฌอง มาร์ค-เอโรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า รัสเซียต้องรับผิดชอบอย่างมากต่อประชาชนชาวซีเรียและมนุษยธรรมทั้งปวง เพราะการใช้สิทธิ์ยับยั้งหรือวีโต้มติของสหประชาชาติว่าด้วยการประกาศคว่ำบาตรซีเรียเรื่องการใช้อาวุธเคมี เพราะมติของสหประชาชาติซึ่งชาติตะวันตกให้การสนับสนุนนั้น สำคัญอย่างมากต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวอีกว่า ในซีเรียการใช้อาวุธเคมี ทั้งโดยรัฐบาลซีเรียและกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสกับประชาชน เหลือที่จะทนต่อไปได้ เรื่องนี้สำคัญเพราะเราจะปล่อยให้อาชญากรรมที่เกิดจากคนที่เลือกใช้อาวุธเหล่านี้ไม่ถูกลงโทษเลย ดังนั้นฝรั่งเศสจึงริเริ่มแผนการประกาศคว่ำบาตรร่วมกับชาติพันธมิตรในมตินี้ของสหประชาชาติ แต่เป็นที่น่าเสียใจยิ่งที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่สามารถแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องนี้ได้

 

 

 

ฝรั่งเศสกับอังกฤษได้ร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติร่วมกับสหรัฐอเมริกา แต่รัสเซียซึ่งเป็นชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีสิทธิ์ใช้อำนาจยับยั้งหรือวีโต้มติของสหประชาชาติ และจีนก็ใช้สิทธิ์วีโต้ด้วยเช่นกัน

โบริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า การใช้สิทธิ์วีโตของรัสเซียและจีนเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง

 

 

 

 

คณะทำงานร่วมยูเอ็นและองค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ยังพบด้วยว่า กลุ่มติดอาวุธไอเอส ได้นำแก๊สมัสตาร์ดมาใช้ในสงครามเมื่อปี 2015 ด้านสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนกบฏสายกลางที่ต้องการโค่นล้มระบอบอัสซาด และยังเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรโจมตีไอเอสทั้งในอิรักและซีเรีย


ขณะที่ทางด้าน นายวลาดิมีร์ ซาฟรอนคอฟ รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวว่ามติคว่ำบาตรจะเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาสันติภาพ และร่างมติที่ 3 ชาติตะวันตกผลิตขึ้นนั้นเป็นการยั่วยุให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง ส่วน หลิว เจียอี้ เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น ชี้ว่าการคว่ำบาตรซีเรียนั้นยังเร็วเกินไป และควรรอให้กระบวนการตรวจสอบของ UN-OPCW เสร็จสมบูรณ์เสียก่อน

 

นายเกนนาดี กาตีลอฟ รมช.กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอังคาร หลังรัฐบาลมอสโกซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ใช้อำนาจวีโต้ปัดตกร่างมติคว่ำบาตรรัฐบาลซีเรียฐานใช้อาวุธเคมีต่อพลเรือน ที่เสนอโดยฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ว่าการปล่อยให้มติดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของที่ประชุม จะก่อให้เกิดบรรยากาศเชิงลบ ต่อการเจรจาสันติภาพซีเรีย ซึ่งกำลังเกิดขึ้นที่นครเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์



Sathaporn Tnews.