สหรัฐฯว่าอย่างไร!! เมื่อ “ซาอุฯ” ส่งพระมหากษัตริย์ เดินหน้าสร้างสัมพันธ์ “จีน” เบือนหน้าหนี “สหรัฐฯ” ส่วนผู้นำยิว เตรียมเยือนจีนสัปดาห์หน้า

จีนและซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันในด้านน้ำมันรวมถึงการส่งออกน้ำมัน จากซาอุดิอาระเบียไปยังจีนมากยิ่งขึ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว จีนและซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันในด้านน้ำมันรวมถึงการส่งออกน้ำมัน จากซาอุดิอาระเบียไปยังจีนมากยิ่งขึ้น       โดยซาอุดิอาระเบีย เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังต้องการที่จะกระชับความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก ก่อนหน้านี้ ซาอุดิอาระเบีย ได้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดใหญ่ให้กับรัสเซีย ซึ่งจีนนั้นเป็นตลาดน้ำมันใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก ทางด้านรัสเซียนั้นเข้ามาแย่งตลาดโดยการร่วมลงทุนกับทางด้านรัฐวิสาหกิจน้ำมันหลักสามแห่งของจีน

 

สหรัฐฯว่าอย่างไร!! เมื่อ “ซาอุฯ” ส่งพระมหากษัตริย์ เดินหน้าสร้างสัมพันธ์ “จีน” เบือนหน้าหนี “สหรัฐฯ” ส่วนผู้นำยิว เตรียมเยือนจีนสัปดาห์หน้า

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ของซาอุดิอาระเบีย ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่าถึง 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯในการเสด็จเยือนจีนของพระองค์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยทั้งสองประเทศมีความตั้งใจที่จะยกระดับความร่วมมือในด้านน้ำมันรวมถึงการส่งน้ำมันของซาอุดีอาระเบียให้กับตลาดจีนที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความสำคัญของเสถียรภาพในตลาดน้ำมันโลกที่มีต่อเศรษฐกิจโลก จีนยกย่องซาอุดีอาระเบียในการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันแก่ตลาดโลกที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ และบทบาทที่ซาอุดีอาระเบียมีในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก
 

ที่ผ่านมานั้นจีนไม่แสดงบทบาทในความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทั้งๆ ที่พึ่งพาน้ำมันจากภูมิภาคนี้ จีนพยายามมีส่วนร่วมมากขึ้นในความพยายามยุติสงครามกลางเมืองนาน 6 ปีของซีเรีย ซึ่งด้านซาอุดิอาระเบียเอง กลับเป็นส่วนที่สนับสนุนกบฏที่ ต่อรู้กับทางด้านผู้นำซีเรีย ส่วนในเยเมนนั้น จีน ได้เสนอการช่วยเหลือให้กับรัฐบาลเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดิอาระเบียเช่นเดียวกัน ในการทำสงครามกับกลุ่มกบฎฮูตี ที่อิหร่านคอยให้การช่วยเหลือ

 

สหรัฐฯว่าอย่างไร!! เมื่อ “ซาอุฯ” ส่งพระมหากษัตริย์ เดินหน้าสร้างสัมพันธ์ “จีน” เบือนหน้าหนี “สหรัฐฯ” ส่วนผู้นำยิว เตรียมเยือนจีนสัปดาห์หน้า

จีนก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิหร่านเช่นกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนไปเยือนทั้งซาอุดีอาระเบียและอิหร่านในเดือนมกราคมปีที่แล้ว
การสร้างบทบาทของจีนในตะวันออกกลาง เริ่มจะมีการตอบรับอย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลก็จะเดินทางมาเยือนจีน เช่นกัน ปัจจุบันนี้จีนนั้นเริ่มแสดงบทบาทเป็นคนกลาง ระหว่างความขัดแย้งต่าง ๆ ในตะวันออกกลางมากขึ้น และได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้นเมื่อจีนใช้ระบบเศรษฐกิจในการนำความสัมพันธ์ไปสู่ประเทศเหล่านั้น ซึ่งผิดกับทางด้านสหรัฐฯ และ กลุ่มนาโต ที่เข้ามายังตะวันออกกลางด้วยกำลังทหารเป็นกำลังสำคัญ

 

สหรัฐฯว่าอย่างไร!! เมื่อ “ซาอุฯ” ส่งพระมหากษัตริย์ เดินหน้าสร้างสัมพันธ์ “จีน” เบือนหน้าหนี “สหรัฐฯ” ส่วนผู้นำยิว เตรียมเยือนจีนสัปดาห์หน้า