เสธน้ำเงิน แฉแหลก..ฉีกหน้ากากลัทธิประชาธิปไตยแท้จริงคือลัทธิสงคราม และเผด็จการก่อการร้ายใหญ่

เพจแฉ..ความลับ โดยเสธน้ำเงิน ได้โพสเรื่องราวที่น่าสนใจ เอาไว้วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 ความว่า...

เพจแฉ..ความลับ โดยเสธน้ำเงิน ได้โพสเรื่องราวที่น่าสนใจ เอาไว้วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 ความว่า...

 

พ.ศ 2504 อเมริกามีประธานาธิบดี จอห์น ฟิตซ์เจอรัล เคเนดี เป็นผู้นำเขาพยายามยุติสงครามเย็น ด้วยการฟื้นฟูสัมพันธไมตรีกับสหภาพโซเวียติ ลดกำลังทางทหาร ลดอำนาจของ CIA, กลุ่มกลาโหม และ พ่อค้าอาวุธสงคราม เขากำลังพยายามเปิดโปงความกระหายสงครามของกลุ่มอิลลูมินาติ

นาย Normand Hodges อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่ปัจจุบันเกษียณแล้วมีอายุ 78 ปี เขากำลังเข้ารักษาอาการป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเซนทารา เจเนรัล ได้แฉความจริงช็อกโลกว่า โดยเขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูงให้กับ CIA มาเป็นเวลานานกว่า 41 ปี

และหนึ่งในหน้าที่การทำงานของเขาก็คือ "การลอบสังหารบุคคลต่างๆ" ให้กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทั้งดารานักแสดง นักวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้ที่อาจจะมีภัยต่อสหรัฐอเมริกา เขาได้รับการฝึกฝนความเชี่ยวชาญมาเป็นพิเศษ ทั้งทางด้านศิลปะการป้องกันตัว มือปืนสไนเปอร์ วัตถุระเบิดและสารพิษ

และตลอดเวลาที่เขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA เขารับคำสั่งรัฐบาลจ้าวลัทธิประชาธิปไตย ลอบสังหารคนสำคัญในอเมริกาและทั่วโลกมาแล้วกว่า 37 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "มาริลิน มอนโร" ดาราฮอลีวู๊ดผู้โด่งดัง โดยเขาแฉว่าทาง CIA มีหลักฐานว่า มาริลิน มีสัมพันธ์ชู้สาวกับประธานาธิบดีเคเนดี้

และเธอยังมีสัมพันธ์ชู้สาวกับ ฟิเดล กัสโตร ผู้นำคิวบาที่เป็นศัตรูกับอเมริกาอีกด้วย แค่ความกลัวว่าข้อมูลของสหรัฐอเมริกาจะรั่วไหลไปถึงพวกคอมมิวนิสต์ นายจิมมี เฮย์วอร์ธ ผู้บังคับบัญชาของเขาจึงสั่งให้เขาสังหารมาริลิน มอนโร โดยทำให้เหมือนกับว่าเธอฆ่าตัวตายด้วยการใช้ยาเกินขนาด ในวันที่ 5 สิงหาคม 2505 เป็นคืนที่เขาลงมือลอบสังหารมาริลิน มอนโร ด้วยการลักลอบเข้าไปในห้องนอนของเธอซึ่งเป็นเวลาที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ จากนั้นก็ฉีดยาให้เธอจนเธอถึงแก่ความตาย เขาไม่เคยลงมือฆ่าผู้หญิงเลย ดังนั้นเธอจึงเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่เขาลงมือสังหาร

 

เสธน้ำเงิน แฉแหลก..ฉีกหน้ากากลัทธิประชาธิปไตยแท้จริงคือลัทธิสงคราม และเผด็จการก่อการร้ายใหญ่

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2506 ประธานาธิบดีเคนาดีพลาด เมื่อนายลินดอน บี จอห์นสัน เป็นรองประธานาธิบดี ได้สมคบคิดคิดกับ CIA และพ่อค้าอาวุธสงคราม กระทำการรัฐประหารชิงอำนาจ โดยการใช้มือปืนลอบยิงสังหารประธานาธิบดีเคเนดี ขณะนั่งรถเปิดประทุนทักทายประชาชนคนอเมริกันจำนวนมาก ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส

อิลลูมินาติใหญ่ที่สมรู้ร่วมคิดสังหารเคเนดี คือ ตระกูล บุช เพราะต้นตระกูลร่ำรวยมาจากได้สัมปทานรถไฟผูกขาด และธุรกิจธนาคาร โดยนายจอห์น HW บุช เคยทำงานเป็นเอเย่นยี่ปั้วในโครงการของ CIA ที่วางแผนจัดทีมมือปืนสังหารฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบา

แต่แล้วเขากลับใช้แผนนั้นเอามาสังหารประธานาธิบดีเคเนดีเสียเอง เพื่อสร้างสถานการณ์ป้ายสีความผิดให้ ฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบา เมื่อเคเนดีตายแผนการชิงอำนาจสำเร็จ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนั้น นายลินดอน บี จอห์นสัน เข้าสวมตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีต่อทันที เขาเปลี่ยนนโยบายรัฐบาล

โดยการเดินหน้าสงครามเย็น-สงครามตัวแทนเต็มตัว ส่งกำลังทหารเข้าไปก่อสงครามในเวียดนามเพื่อฆ่าเด็ก ผู้หญิง และคนชราตายไปหลายล้านคน อ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องลัทธิประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน และวางแผนต่อเนื่องให้อเมริกาประกาศสงครามกับประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบาด้วย

ผู้นำอเมริกาคนต่อๆ มาจากลินดอน บี จอห์นสัน เช่น นิกสัน ฟอร์ด ได้แต่งตั้งบุช ผู้พ่อ มาเป็นผู้อำนวยการ CIA วางฐานอำนาจและลงรับสมัครเป็นประธานาธิบดี และซื้อเสียงจนชนะเลือกตั้ง และบุชผู้พ่อ ก็พยายามสร้างเรื่องก่อสงครามกับประเทศอื่นเรื่อยมา เช่น ปล้นอิรัก อ้างว่าปกป้องคูเวต แต่แท้จริงคือการปล้นบ่อน้ำมัน

บุชผู้ลูก รับหน้าที่ต่อร่วมกับ CIA กระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ จัดฉากให้เกิดเหตุการณ์ 9-11 เพื่อมีข้ออ้างสร้างภาพให้บินลาเดน (ซึ่งที่แท้คือ CIA ) เป็นผู้บงการ และอ้างว่าซัดดัม ฮุสเซน มีอาวุธนิวเคลียร์ และสนับสนุนกลุ่มอัลกออิดะห์ ก่อเหตุวินาศกรรม 9-11 แล้วยกกองทัพบุกอิรักหน้าตาเฉย

ก่อสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนอิรักตายกว่า 5 แสนคน สุดท้ายอเมริกาถูกจับได้ว่ากลุ่มอิลลูมินาติทำเอง จนป่านนี้ยังหาอาวุธนิวเคลียร์ซัดดัมไม่เจอสักเท่าเข็มหมุด แต่ก็หน้าด้านทำมึนหน้าตาเฉย มาจนถึงโอบามา ผู้นำจ้าวลัทธิคนปัจจุบัน ก็ทำหน้าที่ก่อสงครามอย่างเข้มแข็ง หาเหตุส่งกำลังทหารบุกอัฟกานิสถาน และเข้าไปในปากีสถาน เพื่อปลิดชีวิตบินลาเดนให้สมบทบาท

ผุ้นำจ้าวลัทธิประชาธิปไตยทุกคน จึงมีหน้าที่สนับสนุนความร่ำรวยของกลุ่มอิลลูมินาติ ธุรกิจอุตสาหกรรมพ่อค้าอาวุธสงคราม นายทุนธนาคารใหญ่ บริษัทปิโตรเลียม และปกป้องบ่อน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกิจการที่ตระกูลบุชถือหุ้น เพราะการจะเป็นใหญ่ผู้นำอเมริกา ต้องใช้เงินทุนจากกลุ่มอิลลูมินาติสนับสนุนอย่างมาก

ต้องทุ่มเงินซื้อเสียงประชาชนในรูปแบบต่างๆ จนชนะเลือกตั้ง เมื่อขึ้นเป็นประธานาธิบดีแล้ว ทุกคนมีหน้าที่ช่วยปกปิดความลับ “ในการสมรู้ร่วมคิดกัน “ ก่ออาชญากรรมสงคราม และต้องหนุนการก่อการร้ายเพื่อสร้างภาพความตื่นกลัวให้กับคนอเมริกัน และประเทศพันธมิตร

และผู้นำจ้าวลัทธิประชิปไตย ยังมีหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ “หนุนการก่อรัฐประหาร “ในหลายประเทศ เพื่อสร้างผุ้นำเผด็จการที่ควบคุมและเชิดหุ่นได้ และต้องคอรัปชั่นเก่งๆ เช่น นายพลลอนนอล กัมพูชา , นายเหงียน เกา กี เวียดนาม , นายมาร์กอส ฟิลิปปินส์ , ปักจุงฮี เกาหลีใต้ , เซีย อุล ฮัก ปากีสถาน และล่าสุดคือ เจ้าของโรงงานลูกกวาด ผู้นำยูเครน

และหน้าที่หลักอีกประการสำคัญของผู้นำจ้าวลัทธิ ฯ คือ หนุนสงครามตัวแทนในดินแดนต่างๆ ทั่วโลก เพื่ออุ้มเปโตรดอลลาร์ ที่ประหลาดสุดขั้วไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองที่เขาผูกกับทองคำ ระบบพิลึกกึกกือนี้ให้รัฐบาลอเมริกาพิมพ์เงินออกมาใช้ได้ตามต้องการ ก่อให้เกิดหนี้ต่างประเทศสะสมมหาศาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 650 ล้านล้านบาทเข้าไปแล้ว

การก่อกำเนิดกลุ่มก่อการร้ายสารพัดชื่อในตะวันออกกลาง ไม่ใช่ความแตกต่างทางนิกายของศาสนาอิสลาม เชื้อชาติ ชนเผ่า ความเคียดแค้นกันในอดีต หรือการทำจิฮาดยอมตายเพื่อขับไล่ผู้ที่บุกเข้ามาทำลายแผ่นดินมุสลิม แท้จริงแล้วคือ “การหนุนด้วยเงิน อาวุธ “ปลุกปั่นสุมไฟเกลียดชัง หลอกลวง จากบรรดาพันธมิตรนาโต อิสราเอล ซาอุ กาตาร์ จอร์แดน ตุรกี ฯลฯ

 

 

เสธน้ำเงิน แฉแหลก..ฉีกหน้ากากลัทธิประชาธิปไตยแท้จริงคือลัทธิสงคราม และเผด็จการก่อการร้ายใหญ่

ด้านจอห์นแม็คเคน วุฒิสมาชิกและอิลลูมินาติใหญ่พรรครัฐบาลจ้าวลัทธิประชาธิปไตย ก็มีภาพหวานชื่นที่เขาเคยไปเยี่ยมเยียนเหล่าเพื่อนรักกองกำลัง IS CIA ในซีเรียด้วยความห่วงใย พร้อมมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ เป็นพวกรถโตโยต้าติดอาวุธปืนกลหลายร้อยคัน โดยมีเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ ของกองทัพอเมริกาบินคุ้มกันแบบถนุถนอม เกรงมดไรจะมาไต่ตอมให้ผิวช้ำ

หลังจากวุฒิสมาชิกแม็คเคนกลับมาจากการเดินทางไปเยี่ยมเหล่าเพื่อนรักกลุ่มก่อการร้าย IS CIA ที่ประเทศซีเรียเขากล่าวว่า "เขาดีใจมากที่ได้พบบรรดานักรบเหล่านี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกามานานหลายปี" แม็คเคนบอกต่อว่า "กลุ่มก่อการร้าย IS CIA กำลังกังวลถึงสถานการณ์สู้รบ"

และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือด้านอาวุธ เนื่องจากกำลังถูกไล่ล่าอย่างหนักจากกลุ่มเฮชบุลเลาะห์ของอิหร่าน และจากทหารของรัฐบาลซีเรีย นอกจากนั้นเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมาเยอรมันนี ได้ส่งยุทธโธปกรณ์ทางทหาร เช่น เครื่องยิงระบบต่อต้านรถถังจรวดพิสัยกลาง MILAN (MILAN Medium Range Missile) ที่ผลิตโดยบริษัท MBDA ของฝรั่งเศส จำนวน 30 ชุด

ขีปนาวุธ 500 ลูก ปืนไรเฟิลจู่โจม 4,000 กระบอก รถหุ้มเกราะติดอาวุธ Dingo 10 คัน อ้างว่าส่งไปให้กองทัพเคิร์ดในอิรัก แต่ไม่นานต่อจากนั้นจรวดทำลายรถถัง MILAN 3 ดันตกไปอยู่ในความครอบครองของกองกำลัง IS CIA ใช้ทำลายรถถังของรัฐบาลซีเรีย ?? อ้าว..ชาวฝรั่งเศส และ EU ไม่รู้เรื่องนี้เลยรึ ??

ล่าสุดประธานาธิบดี ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส แถลงต่อรัฐสภาว่าขณะนี้ “ฝรั่งเศสอยู่ในภาวะสงคราม “หลังกองกำลัง IS CIA ก่อการร้ายสังหารผู้บริสุทธิ์ไป 129 ราย ดังนั้นฝรั่งเศสจะเพิ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่ม IS ในซีเรียเข้มข้นขึ้นในหลายสัปดาห์ข้างหน้า เพราะขณะนี้ซีเรียกลายเป็นโรงงานผลิตผู้ก่อการร้ายไปแล้ว..อ้าว ซะงั้น ???

นี่คือความจริงของลัทธิประชาธิปไตย ต้องฆ่าคนอื่นมากๆ ต้องกลั่นแกล้งรังแก กดขี่ทางชนชั้นสังคม ศาสนา ชนชาติ ต้องคดโกง คอรัปชั่น ต้องโกหก และจ้าวลัทธิฯ ต้องการปลูกฝังแนวคิดแบบนี้ไปในทุกประเทศ เพื่อที่กลุ่มชาติตะวันตกจะได้ควบคุมประชากรทั้งโลกได้โดยอ้าง “ประชาธิปไตย”

การที่อเมริกา และยุโรปอ้างว่าประเทศพวกตนเป็นเสรีประชาธิปไตย และบีบบังคับให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกต้องมีการเลือกตั้งในแบบที่ตนเองกำหนดผู้นำได้ โดยหนุนนักการเมืองขายชาติ เชิดรัฐบาลหุ่นที่่จ้าวลัทธิควบคุมได้ เพื่อจะเปิดทางให้ชาติตะวันตกเข้ามาสูบทรัพยากรจากประเทศซีกตะวันออก กอบโกยหาผลประโยชน์ เอารัดเอาเปรียบ

ตื่นเถิดชาวไทยและชาวโลก ไม่เคยมีลัทธิประชาธิปไตยอยู่จริงๆ ในโลกใบนี้ มีแต่เพียง “ลัทธิสงคราม และก่อการร้าย “ เท่านั้นที่ชาวโลกกำลังเผชิญอยู่ เมื่อใดที่ลัทธิประชาธิปไตยมา ให้พึงสังวรได้เลยว่าเราจะเสีย “อธิปไตย” ไปให้กับต่างชาติ

 

 

เสธน้ำเงิน แฉแหลก..ฉีกหน้ากากลัทธิประชาธิปไตยแท้จริงคือลัทธิสงคราม และเผด็จการก่อการร้ายใหญ่